ข่าวกีฬาซีเกมส์

ปันจักสีลัตไทย แจง ดราม่าซีเกมส์ ยันแพทย์ได้มาตรฐาน โต้กลับ เวียดนามแกล้งเจ็บ

สมาคมปันจักสีลัตแจงปมดราม่า “เวียดนาม-มาเลย์” ยันทีมแพทย์ได้มาตรฐาน ชี้คู่กรณีแกล้งเจ็บหวังชนะฟาวล์

จากกรณีดราม่าร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับข้อกังขาเรื่องมาตรฐานการปฐมพยาบาลในการแข่งขันกีฬา ปันจักสีลัต ศึกซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในรุ่น 65 กิโลกรัมชาย คู่ระหว่าง เหงียน มินห์ ตรี นักกีฬาจากเวียดนาม พบกับ มูฮัมหมัด อิซซู ตัวเต็งจากมาเลเซีย ซึ่งภาพที่ปรากฏออกไปทำให้อาจเข้าใจผิดว่าฝ่ายจัดการแข่งขันปล่อยปละละเลยให้นักกีฬานอนบาดเจ็บโดยไร้การดูแล

ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568 เว็บไซต์ข่าว THAIRATH SPORT ได้อ้างอิงข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เพจ ขอบสนาม ที่ระบุว่า นายนักรบ ทองแดง ประธานฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจง ข้อเท็จจริงเพื่อความกระจ่าง โดยยืนยันว่าฝ่ายจัดการแข่งขันมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลนักกีฬาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

ประธานฝ่ายเทคนิคฯ ได้ขยายความถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ในจังหวะปัญหา ผู้ตัดสินได้ทำการตรวจสอบภาพ VAR อย่างละเอียดแล้ว และชี้ชัดว่าหมัดของนักกีฬามาเลเซียที่ออกไปนั้น ไม่ผิดกติกาและน้ำหนักไม่เข้าข่าย “น็อกดาวน์” ซึ่งตามกติกาของปันจักสีลัตจะห้ามชกเข้าบริเวณใบหน้า หากทำผิดจะถูกปรับแพ้ฟาวล์ทันที

ด้วยเหตุนี้ เมื่อคณะกรรมการเรียกทีมแพทย์ลงสนามเพื่อตรวจประเมินอาการตามขั้นตอน ทั้งการใช้ไฟส่องตา ตรวจกล้ามเนื้อบริเวณคอ และเช็กสัญญาณชีพต่าง ๆ ผลการประเมินทางการแพทย์พบว่า อาการของนักกีฬาเวียดนามอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด

เพจ ขอบสนาม ได้อธิบายว่า ในเชิงลึกของเกมการแข่งขัน มีการวิเคราะห์กันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงเรื่องของ กลยุทธ์ หรือ แทกติก เพื่อหวังผลทางชัยชนะ

เมื่อรูปเกมตกเป็นรองและประเมินแล้วว่าไม่สามารถต่อกรได้ จึงพยายามฉวยจังหวะจากการปะทะเพื่อแสดงอาการบาดเจ็บที่รุนแรงเกินจริง โดยมีเป้าหมายกดดันให้คู่แข่งถูกจับแพ้ฟาวล์

อย่างไรก็ตาม เมื่อทีมผู้ตัดสินและทีมแพทย์ได้เข้าประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดแล้ว พบว่าจังหวะดังกล่าวไม่ได้มีการทำผิดกติกาและอาการบาดเจ็บไม่ได้วิกฤตอย่างที่แสดงออก

ผู้ตัดสินจึงดำเนินการนับตามกติกาจนครบ 10 วินาที และตัดสินให้พ่ายแพ้ไปในที่สุด ซึ่งภาพการนอนแน่นิ่งกลางสนามอาจสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ชมทางบ้านที่ไม่เข้าใจกติกาและการประเมินของแพทย์ในสนาม

ข้อเท็จจริงยิ่งปรากฏชัดเจนขึ้นในบทสรุปหลังจบการแข่งขัน เมื่อทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้อุ้ม เหงียน มินห์ ตรี ออกจากสนามโดยไม่ต้องใช้เปลพยาบาล เนื่องจากประเมินแล้วว่าสามารถเคลื่อนย้ายได้และไม่ได้บาดเจ็บหนักตามที่กังวล

ซ้ำร้ายหลังจากนั้นไม่นาน ยังพบภาพของนักกีฬาคนดังกล่าวกลับมานั่งเชียร์เพื่อนร่วมทีม และลุกขึ้นมาซ้อมล่อเป้าได้ตามปกติ สอดคล้องกับคำยืนยันของ Assistant Technical Delegate ชาวอินโดนีเซีย ที่ระบุว่ากรณีนี้ไม่ใช่การน็อกดาวน์และไม่มีอันตรายร้ายแรง

สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทยยืนยันว่ามีหลักฐานบันทึกไว้ทั้งหมด ซึ่งสาเหตุที่ต้องงัดแทกติกนี้มาใช้ ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นเพราะคู่แข่งอย่าง มูฮัมหมัด อิซซู จากมาเลเซียนั้น มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าจากซีเกมส์ครั้งก่อนและเป็นเต็งหนึ่งของรุ่น ทำให้การเอาชนะด้วยฝีมือปกติเป็นเรื่องที่ยากลำบากนั่นเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขอบคุณข้อมูลจาก : THAIRATH SPORT และ เพจ ขอบสนาม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button