
ฉีกกฎลดความอ้วน ไอดอลสาวญี่ปุ่นกิน “ราเมง” ดุสัปดาห์ละ 6 วัน แต่น้ำหนักลดฮวบ 5 กิโล เผยเคล็ดลับ 3 ข้อ หุ่นเป๊ะได้ไม่ต้องอด
“มินาโตะ อิโอริ” (Minato Iori) สมาชิกวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป “may in film” ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแม่สายกินเส้น ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับการดูแลรูปร่างที่ทำเอาหลายคนต้องทึ่ง เพราะเธอกินราเมงถึงสัปดาห์ละ 6 วัน แต่กลับสามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 5 กิโลกรัม
ฉายา ราเมงเลิฟเวอร์ กินโหดแต่ไม่อ้วน อิโอริ เป็นที่รู้จักในฐานะไอดอลที่คลั่งไคล้ราเมงเป็นชีวิตจิตใจ เธอมักจะโพสต์รูปตระเวนชิมราเมงร้านต่างๆ ลงโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ โดยไม่ปิดบังว่าตารางการกินของเธอนั้นดุเดือดถึงขนาดกินราเมงสัปดาห์ละ 6 ครั้ง ที่สำคัญราเมงที่เธอกินส่วนใหญ่เป็น “จิโร่เค” (Jiro-style) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความมัน ชามใหญ่ และแคลอรีสูงปรี๊ด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา เธอได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะวิ่งออกกำลังกายจนเหงื่อท่วมตัว พร้อมแคปชั่นที่แสดงถึงวินัยอันแรงกล้าว่า “ไอดอลที่กินเส้นสัปดาห์ละ 6 ครั้ง วิ่งทุกวันด้วยความเร็วที่มั่นคง พร้อมกับจิตใจที่แข็งแกร่งว่าจะไม่ยอมอ้วนเด็ดขาด”

เปิดสูตรลับ 3 ข้อ กินราเมงยังไงให้ผอมลง 5 โล?
ในวันถัดมา อิโอริได้โพสต์เพิ่มเติมด้วยความภูมิใจว่า เธอสามารถลดน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัมสำเร็จ ทั้งที่ยังกินราเมงจิโร่เคสัปดาห์ละ 6 มื้อเหมือนเดิม โดยเธอได้แชร์กฎเหล็ก 3 ข้อที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ได้แก่
- เว้นระยะมื้ออาหาร ทิ้งช่วงห่างระหว่างมื้ออาหารนาน 10 ชั่วโมง (คล้ายกับการทำ IF)
- งดของหวาน พยายามหลีกเลี่ยงขนมหวานสไตล์ตะวันตก (เช่น เค้ก เบเกอรี่)
- วิ่งทุกเช้าต้องตื่นมาวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
อิโอริ ยืนยันหนักแน่นพร้อมโชว์ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังลดน้ำหนักว่า “สำหรับตัวฉันเอง ตราบใดที่ทำตามกฎเหล่านี้ ต่อให้กินราเมงจิโร่ต่อไป ก็ไม่กลับไปอ้วนแน่นอน” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมาก แฟนคลับต่างเข้ามาชื่นชมในวินัยการออกกำลังกายที่สามารถเผาผลาญแคลอรีมหาศาลจากการกินของโปรดได้

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่า หากใครจะทำตามสูตรลดน้ำหนักด้วยการกินราเมงหรืออาหารประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เนื่องจากปริมาณโซเดียมในราเมงมี่สูงมาก มากเกินกว่าร่างกายต้องการต่อวัน ซึ่งการวิ่งออกกำลังกายไม่สามารถขับออกได้หมด
ราเมงชนิดน้องไอดอลทานเรียกว่า “Jiro-kei” (จิโร่เค) ขึ้นชื่อว่าเป็นราเมงที่หนักที่สุดชนิดหนึ่ง ทั้งมันหมู , กระเทียม และซอสโชยุที่เข้มข้นมาก
เกณฑ์มาตรฐานโลก (WHO) แนะนำให้รับโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน (เกลือประมาณ 1 ช้อนชา) ขณะที่ราเมงจิโร่ 1 ชามมีการประเมินว่ามีโซเดียมสูงถึง 2,000 – 4,000 มิลลิกรัม หรือมากกว่านั้นถ้าซดน้ำหมด กินชามเดียว คุณได้รับโซเดียมทะลุโควตาไป 1-2 เท่าของที่ร่างกายต้องการทั้งวันแล้ว

วิ่งเบิร์น “ไขมัน” แต่ไตยังรับกรรมจากเกลือ
การวิ่งช่วยเผาผลาญแป้งและไขมัน (Calorie) ทำให้น้องไอดอลหุ่นดี ไม่อ้วน แต่ “ไต” มีหน้าที่กรองของเสียและโซเดียมออกจากเลือด แม้การเหงื่อออกจะขับโซเดียมได้บ้าง แต่ปริมาณมหาศาลจากราเมงทุกวันนั้นเกินกว่าที่การขับเหงื่อจะช่วยได้ทัน
ผลกระทบระยะยาว ไตต้องทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อขับโซเดียมส่วนเกิน ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดฝอยในไตเสื่อมสภาพ นำไปสู่โรคไตเรื้อรังในที่สุด แม้ตัวจะผอมก็ตาม
ดังนั้นหากกินแบบนี้ต่อเนื่อง อาจเสี่ยงต่อ ความดันโลหิตสูง ตัวบวม หน้าบวม ขาบวม เพราะร่างกายกักน้ำไว้เจือจางความเค็ม โซเดียมสูงทำให้ไตขับแคลเซียมออกมาในปัสสาวะเยอะ เสี่ยงเกิดนิ่วในไต
ถ้าใจรักราเมงจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเลิก แต่ควรปรับพฤติกรรม ห้ามซดน้ำซุปหมดชาม โซเดียมกว่า 50-60% อยู่ในน้ำซุป ให้กินเส้นกับเครื่องก็พอ เหลือเทน้ำทิ้งไป กินกล้วย/ผลไม้ เพราะโพแทสเซียมในผลไม้ช่วยขับโซเดียมได้บ้าง (แต่ช่วยไม่ได้ทั้งหมดถ้ากินเค็มจัดเกินไป) ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อช่วยไตขับโซเดียม อย่าหาทำทุกวัน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ถือว่ามากแล้วสำหรับอาหารรสจัดแบบนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผวา! จับกุมชายญี่ปุ่นก่อเหตุแทงเจ้าหน้าที่อีเวนต์วงไอดอลดัง HKB48 สารภาพหวังปลิดชีพ
- ศาลญี่ปุ่นสั่งจำคุก 16 ปี เสี่ยแทงไอดอล เปย์จนหมดตัว สาวไม่ยอมไปเที่ยวด้วย
- ฉาววงการ! เน็ตไอดอลสาว ยักยอกเงินค่ารักษา ปล่อยแม่ป่วยหนักดับอนาถ
ที่มา: ettoday
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



