เจ้าสาวดิ่งตึก ในวันแต่งงาน สังเวยคลุมถุงชน สลด ครอบครัวไม่รับศพ ปล่อยทิ้งไร้ญาติ

เจ้าสาวในจีนดิ่งตึก ในวันแต่งงาน จดหมายลาตายประจานคลุมถุงชน 11 ปี ค่านิยมล้าหลัง สลด ครอบครัวไม่รับศพ ปล่อยทิ้งไร้ญาติ
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม สำนักข่าวจีน รายงาน ที่ผ่านมา ณ อำเภอหลูซาน เมืองผิงติ่งซาน มณฑลเหอหนาน วันที่ควรจะเป็นวันเริ่มต้นชีวิตคู่ที่สดใส กลับกลายเป็นวันสุดท้ายของชีวิต “เว่ย ย่ารุ่ย” (Wei Yarui) ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ระดับมัธยมปลาย วัย 28 ปี
วันมงคลกลายเป็นวันมหาวิปโยค ในเช้าวันจัดงานแต่งงาน เว่ย ย่ารุ่ย ตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้น 7 ของอาคารที่เป็นเรือนหอ ทั้งที่ยังสวมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ในมือของเธอกำแน่นไปด้วยเศษเครื่องเคลือบ “หลูซาน” ซึ่งเป็นสื่อการสอนที่เธอใช้เล่าเรื่องราววัฒนธรรมบ้านเกิดให้แก่นักเรียน มันกลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เชื่อมโยงเธอกับโลกใบนี้
ก่อนจบชีวิต เธอได้โพสต์ข้อความสั่งเสียผ่าน WeChat Moments (คล้ายไทม์ไลน์) จดหมายลาตาย 11 ปีแห่งการต่อสู้ที่สูญเปล่า เปิดเผยความจริงอันเจ็บปวดว่า การแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่จุดหมายของความรัก แต่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของความอดทน
“คุณค่าสูงสุดของฉันคือการแต่งงาน ฉันต่อสู้มา 11 ปีแล้ว แต่สุดท้ายก็แพ้”
ข้อความระบายความอัดอั้นว่า แท้จริงครูสาวถูกกดดันเรื่องแต่งงานมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ท่ามกลางแรงบีบคั้นจากพ่อแม่และญาติพี่น้อง ที่มองว่าผู้หญิงที่ไม่แต่งงานคือความล้มเหลว เธอเคยสู้ เคยร้องไห้ เคยขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย แต่กลับได้รับคำด่าทอว่าเป็นลูกอกตัญญู สุดท้ายเธอเลือกที่จะยอมจำนน ไม่ใช่เพราะเห็นด้วย แต่เพราะเหนื่อยเกินกว่าจะสู้ต่อ
ในจดหมายเว่ย ย่ารุ่ยยังเขียนด้วยถ้อยคำที่สงบนิ่งแต่เสียดแทงว่า “พ่อแม่ให้เงิน คู่ชีวิตให้เงิน ญาติชมว่าฉันรู้ความ แค่นี้ฉันก็ตายตาหลับแล้ว” พร้อมสั่งเสียเพื่อนว่าให้เลือกวันที่มีแดดและลมแรง โปรยเถ้ากระดูกของเธอไป เพื่อให้เธอได้สัมผัสคำว่าอิสระอย่างแท้จริงสักครั้ง
เว่ย ย่ารุ่ย คือครูข้าราชการที่มีอนาคตไกล เป็นที่รักของลูกศิษย์และได้รับคำชมจากผู้ปกครอง ในห้องเรียนเธอสอนนักเรียนเรื่องการปลดแอกของคนหนุ่มสาวยุค 54 ให้กล้าต่อสู้กับอำนาจเก่าและแสวงหาเสรีภาพ แต่ในชีวิตจริง เธอกลับถูกจองจำด้วยค่านิยมโบราณที่มองว่าผู้หญิงต้องแต่งงานเท่านั้นจึงจะสมบูรณ์
สิ่งที่น่าสลดใจยิ่งกว่าการจบชีวิต คือปฏิกิริยาของคนในครอบครัวหลังเกิดเหตุ รายงานระบุว่าศพของเธอถูกทิ้งไว้ที่พื้นด้านล่างอาคารนานเกือบ 24 ชั่วโมง โดยไม่มีใครเข้ามาจัดการ ฝั่งบ้านเจ้าสาว พ่อแม่แท้ๆ ปฏิเสธความรับผิดชอบด้วยคำกล่าวที่ว่า “ลูกสาวแต่งงานออกไปแล้ว เหมือนน้ำที่สาดออกไป” ฝั่งบ้านเจ้าบ่าวปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “พิธีแต่งงานยังไม่เสร็จสิ้น ยังไม่นับว่าเป็นคนของบ้านเรา”
สุดท้าย ทั้งสองฝ่ายต่างเกี่ยงกันรับศพ ปล่อยให้ร่างไร้วิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งที่พวกเขากดดันให้แต่งงาน ต้องนอนตากลมอย่างเดียวดาย ก่อนจะถูกส่งไปโรงเก็บศพในที่สุด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สลด เจ้าสาว 19 ปี จบชีวิต หลังครอบครัวสามีด่าสารพัด รู้สาเหตุพ่อใจสลาย
- บ่าวสาวไฟคลอก ลูกโป่งไฮโดรเจนระเบิด งานแต่งกลายเป็นฝันร้าย
- เปิดภาพชุดเจ้าสาว “มายด์ ลภัสลัล” พิธีหมั้น “พาย สุนิษฐ์” เรียบหรู อบอุ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



