ข่าว

ทหารเขมร สวนกองทัพห้ามเล่นโซเชียล ย้ำรักชาติ แต่ปากท้องก็สำคัญ!

ผลพวงจากสถานการณ์ปะทะต่อเนื่องในพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และต่อมาในช่วงเช้ามืดวันนี้ (9 ธ.ค.68) ได้มีการปะทะในพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารกัมพูชาได้ทำการยิงด้วยอาวุธปืนเล็ก-อาวุธวิถีโค้ง ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.05 น. จนถึงปัจจุบัน ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามกฎ

ล่าสุดที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่ายังคงมีปะทะกันอยู่ด้วยปืนเล็กและอาวุธยิงสนับสนุนของแต่ละฝ่ายต่อเนื่อง ฝ่ายไทยใช้ปืน ค . ขณะที่กัมพูชา ใช้ จรวดBM-21และยังไม่ได้รับรายงานการบาดเจ็บและสูญเสีย

สำหรับ ปราสาทคนา จ.บุรีรัมย์ ปัจจุบันไม่พบการตอบโต้แล้ว แต่ต้องรอเคลียร์พื้นที่ละเอียด เนื่องจาก อุปสรรคของทุ่นระเบิด เพื่อการควบคุมที่สมบูรณ์

ขณะที่พื้นที่กองทัพภาคที่1จ.สระแก้ว สามารถควมคุมพื้นที่ได้สมบูรณ์ เมื่อวาน(8ธ.ค.) พื้นที่เดียว คือ บ้านหนองหญ้าแก้ว

ด้าน สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ภาพพร้อมข้อความ โดยระบุว่า กัมพูชาได้ตัดสินใจตอบโต้เพิ่มเติม หลังไทยเปิดปฏิบัติการทวงคืนอธิปไตยและตอบโต้การโจมตีจากฝ่ายกัมพูชา และหลังจากอดทนมานานกว่า 24 ชม. ในการเคารพข้อตกลงหยุดยิง และต้องการเวลาในการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย เราได้ตอบโต้ด้วยกำลังพลเพิ่มเติมตั้งแต่เมื่อคืนและเช้านี้

ขณะที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปของทหารกัมพูชารายหนึ่งที่บ้านอีแตะ ประจำแนวรบพระวิหาร ได้โพสต์รูปเซลฟี่ฝ่าฝืนคำสั่งขของกองทัพประเทสตัวเองที่ห้ามเปผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียล โดยทหารเขมรที่เป็นประเด็นรายนี้ได้ฌโพสต์ข้อความไว้ด้วยว่า “กองทัพเรียกร้องพวกเราไม่ให้ถ่ายคลิปเรียวการสู้รบและการย้ายอาวุธ พวกคุณรู้บ้างไหม ทหารแนวหน้าต้องกินต้องใช้ ชาติก็รัก แต่เงินสำคัญกว่า”

ภาพ Fb. @Army Military Force

เมื่อสำรวจบนเพจดังกล่าว ยังมีการเปิดเผยคลิปวิดีโอของทหารเขมรอีกราย โพสต์รูปพร้อมระบุ “เสียงปืนใหญ่ทหารเสียม ดังน่ากลัว”

ภาพ Fb. @Army Military Force

ขอบคุณคลิปจาก : @Army Military Force

ต่อมาเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คัดข่าว มองกรณีทหารกัมพูชาชอบถ่ายคลิปสู้รบลงโซเชียล สาเหตุหลักปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากช่องทางนี้สร้างรายได้ให้พวกเขานั่นเอง

“เหตุผลที่ทหารกัมพูชาแชร์คลิปแม้จะถูกห้าม เพราะนี่คือรายได้ของพวกเขา อันนี้พูดจริง เนื่องจากพวกเขาได้เงินเดือนไม่มากนักดังนั้นคลิปพวกนี้ที่มียอดคนดูคนแชร์คนกดไลค์จึงสร้างรายได้กับพวกเขา ดังนั้นแม้ว่าถูกห้ามเขาก็ยังแชร์และมีการตอบโต้กลับไปว่านี่เป็นรายได้นะ”.

ภาพ Facebook @cadkhao
ภาพ Facebook @cadkhao
ภาพ Facebook @cadkhao

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button