แม่ใจอำมหิต! ป่วยจิตเภท ฆ่าปาดคอลูกชายแท้ๆ วัย 9 ขวบ ดับสยองคาห้องน้ำ

เกิดเหตุสลดที่อิตาลี แม่ชาวยูเครน วัย 55 ปี มีประวัติป่วยจิตเภท ใช้มีดทำครัวฆ่าปาดคอลูกชายวัย 9 ขวบ ระหว่างได้สิทธิ์เยี่ยมตามลำพัง
เกิดเหตุสะเทือนใจขึ้นที่ประเทศอิตาลี ตำรวจในเมืองทริเอสเต พบร่างเด็กชายวัย 9 ขวบ เสียชีวิตอยู่บนพื้นห้องน้ำภายในอพาร์ตเมนต์ที่เมืองมูเจีย คาดเสียชีวิตมาหลายชั่วโมง ผู้ก่อเหตุคือนางโอลีนา สตาเซียค วัย 55 ปี สัญชาติยูเครน ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ของเด็ก
ด้านเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางสตาเซียคทันที เพื่อสอบสวนในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาขั้นรุนแรง โดยการเข้าตรวจสอบอพาร์ตเมนต์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากผู้เป็นพ่อของเด็ก ได้แจ้งเหตุฉุกเฉินต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้

เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่นางสตาเซียคได้รับสิทธิ์ให้มาเยี่ยมลูกชายตามลำพังโดยไม่มีผู้ดูแล เป็นครั้งแรก ๆ หลังจากต้องถูกควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดมานานหลายปี นับตั้งแต่แยกทางกับสามีในปี 2560
รายงานระบุว่า นางสตาเซียคมีประวัติการรักษาปัญหาสุขภาพจิตในอดีต รวมถึงเคยถูกบังคับให้บำบัดและดูแลอาการป่วยจิตเภท (Schizophrenia)
จากเอกสารของศาลและรายงานต่าง ๆ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เด็กชายเคยแสดงความหวาดกลัวที่จะต้องอยู่กับแม่ตามลำพัง พร้อมกับเคยกล่าวกับผู้เชี่ยวชาญครั้งหนึ่งว่า “ผมเศร้าเวลาต้องไปหาแม่ เพราะผมกลัว” เมื่อถามถึงสาเหตุ เด็กชายจึงเล่าว่า “แม่เคยบีบคอผม แม่ใช้มือทั้งสองข้างจับคอผมแล้วก็บีบ”

ผู้เป็นพ่อได้ให้นาฬิกาสมาร์ทวอชไว้กับลูกชาย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่น่าเศร้าที่นาฬิกาไม่ได้ถูกเปิดใช้งานในคืนที่เกิดเหตุ และได้เคยทำหนังสือร้องเรียนต่อทางการว่าผู้เป็นแม่มีลักษณะอันตราย และยังเคยมีข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ว่าผู้เป็นแม่พยายามบีบคอลูก แต่ครั้งนั้นถูกปัดตกเนื่องจากมองว่าอาจเป็นเพียงอุบัติเหตุ
ขณะนี้ ทางการกำลังตรวจสอบอย่างละเอียดว่าศาลอนุญาตให้มีการพบปะตามลำพังโดยไม่มีผู้ดูแลได้อย่างไร ปัจจุบัน นางสตาเซียคถูกควบคุมตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในพื้นที่ เพื่อรอการประเมินอาการทางจิตเวช
ที่มา: The Sun UK
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทรัมป์” กลับลำ หนุนรีพับลิกัน โหวตเผยแพร่เอกสารคดีค้ามนุษย์ “เอปสตีน”
- ขนลุก ตร.โตเกียวจับหนุ่มแอบถ่ายภาพเปลือยหญิงวัย 50 ปี อ้างแค่อยากรู้การใช้ชีวิตของผู้หญิง
- น้องเอปสตีน ปฏิเสธ ไวรัลออนไลน์ ลือ “ทรัมป์” อมนกเขา “คลินตัน”
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



