นาทีเดือด อภิสิทธิ์ เผชิญหน้า นิสิตจุฬา เก๋าเกมส์แก้ข้อครหา สั่งฆ่า สลายการชุมนุม 53

นาทีเดือด อภิสิทธิ์ เผชิญหน้า นิสิตจุฬา เก๋าเกมส์ ตอบได้หมด ข้อครหา สั่งฆ่า สลายการชุมนุม 53 ยืนยันทำตามกฎหมาย ไม่เคยแทรกแซง ไม่มีความผิด ศาลพิสูจน์แล้ว
จากกรณีวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เกิดดราม่าที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรพิเศษบรรยายในเสวนาเชิงนโยบาย (Policy Talk) หัวข้อ “นโยบายสาธารณะ: ทฤษฎีและการปฏิบัติ” ของหลักสูตรปริญญาเอก สาขานโยบายสาธารณะ เผชิญหน้ากับกลุ่ม นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ถือป้ายข้อความ “สลายการชุมนุม 53 คนสั่งฆ่าอยู่นี่”
เมื่อเห็นป้าย นายอภิสิทธิ์ กับ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะผู้เชิญบรรยาย ได้ขอนั่งพูดคุยกับนิสิตกลุ่มดังกล่าว เพื่อชี้แจงความเข้าใจให้ถูกต้องว่า ตนไม่เคยแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมระหว่างการดำเนินคดี อ้างข้อสรุปของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันว่า คำสั่งของตนในขณะนั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา
ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เคยส่งฟ้องตนในข้อหาสั่งฆ่าประชาชน ศาลได้ยกฟ้องทั้ง 3 ศาลแล้ว นายธาริตเองถูกศาลฎีกาสั่งจำคุกจากการที่ตนฟ้องกลับ ฐานเจตนาฟ้องกลั่นแกล้ง

หลักความรับผิดชอบของตนคือการให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ นี่คือเหตุผลที่ตนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนิรโทษกรรมสุดซอย ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมตั้งคำถามย้อนกลับชวนให้คิดว่า มันเป็นเรื่องแปลกไหม คนที่กล่าวหาว่าตนเป็นฆาตกร พร้อมที่จะยกมือนิรโทษกรรมให้ตน แต่ตนไม่ยอม ถ้าตนไม่บริสุทธิ์ใจ ทำไมไม่เข้าร่วมไปเลยล่ะ จะได้จบกันไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า มีการใช้อาวุธสงคราม วางระเบิด ตนไม่ได้กล่าวหาผู้ชุมนุม แต่หมายถึงผู้อยู่เบื้องหลังกองกำลังติดอาวุธ เหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์เดียว ที่เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิตจากอาวุธสงคราม จึงมีการชี้ว่าเป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หากไม่มีผู้ติดอาวุธอยู่ในการชุมนุม เหตุการณ์จะไม่ลุกลามเช่นนั้น หากจะกล่าวหาว่าตนเป็นคนสั่งฆ่า ต้องมีหลักฐานชัดเจนว่าคำสั่งไหนที่สั่งให้ฆ่า
ที่ควรต้องหาข้อเท็จจริงอย่างถึงที่สุดคือ การลอบสังหาร “เสธ.แดง” พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล กับกรณี6 ศพ วัดปทุมวนาราม ย้ำว่าทั้งสองเหตุการณ์ไม่ใช่คำสั่งของตน ตนมั่นใจว่าคำสั่งสลายการชุมนุมชัดเจนว่าให้หลีกเลี่ยงการสูญเสีย ตนไม่เคยหนีความรับผิดชอบ
ต่อมา เนเน่ รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านช่องทางส่วนตัว เล่าถึงเหตุการณ์ #อภิสิทธิ์นิสิตจุฬา ที่เกิดขึ้นว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์ก่อนที่การบรรยายในห้องจะเริ่มขึ้น มีกลุ่มนิสิตจุฬาฯ ประมาณ 5-6 คน เข้ามาถือป้ายแสดงออก ขอคำชี้แจงจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกรณีการสลายการชุมนุมปี 2553
อาจารย์ไชยันต์ ได้เชิญ นายอภิสิทธิ์ มาเป็นผู้บรรยายคนแรกของซีรีส์ จากทั้งหมด 4 ครั้ง การคัดเลือกผู้บรรยายเป็นการหารือร่วมกันระหว่างคณะนักศึกษาปริญญาเอกในหลักสูตรกับอาจารย์ไชยันต์
ในความเห็นของอาจารย์ไชยันต์ เหตุผลที่เชิญนายอภิสิทธิ์ คือ ท่านเป็นหนึ่งในอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีความอิสระในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในผู้นำทางการเมืองของไทยยุคหลัง
น.ส.รัดเกล้า เล่าว่า ทั้งคณะอาจารย์ นักศึกษาปริญญาเอก ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าเลย ว่าจะมีนิสิตประมาณ 5-6 คน เข้ามาถือป้ายใส่แขกรับเชิญ ทีม รปภ. พยายามทำหน้าที่ของตัวเอง เข้าดูแลสถานการณ์ แต่นายอภิสิทธิ์กลับพูดกับเจ้าหน้าที่อย่างสุภาพ พร้อมแตะที่แขน รปภ. เบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรครับ ให้เขาแสดงออกเถอะ อย่าไปกีดกัน”

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ได้ชวนนิสิตกลุ่มดังกล่าวมานั่งพูดคุยกันที่ม้านั่งบริเวณใกล้ ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ถาม-ตอบกันตรงไปตรงมา การสนทนานั้นกินเวลาประมาณ 20 กว่านาที
หนึ่งในนิสิตได้ขออนุญาตบันทึกเสียงวิดีโอ นายอภิสิทธิ์ไม่ติดขัดใด ๆ ซึ่งตนเพิ่งมารู้ภายหลังว่ามีสื่อประชาไทมารวมอยู่ในกล้องของกลุ่มนิสิตด้วย ขอบคุณสื่อประชาไทที่บันทึกเหตุการณ์ไว้อย่างครบถ้วน เผยแพร่คลิปให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริงด้วยตนเอง
น.ส.รัดเกล้า ทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนได้ดูคลิปเต็มด้วยตาของตัวเอง เพราะบางครั้ง “สิ่งที่เราเห็นผ่านบางมุม อาจไม่ใช่เรื่องทั้งหมด” การได้ฟังจากต้นเหตุการณ์ ย่อมดีที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะคิดเห็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือการฟังกันด้วยเหตุผล ใช้วิจารณญาณบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กัมพูชา กังวล ‘อภิสิทธิ์’ คัมแบ็ก อดีตเคยขัดแย้งกัน หวั่นปัญหาชายแดนปะทุ
- บุรุษขี่ม้าขาว อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมากู้วิกฤติ พรรคประชาธิปัตย์
- ด่วน! ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี 4 เดือน แกนนำ นปช. ชุมนุมไล่อภิสิทธิ์
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





