ชำแหละแข้งหงส์ หลังพ่ายเบรนท์ฟอร์ด 2-3 แพ้ 4 นัดรวดในลีก “เวิร์ตซ์-ซาลาห์” ยังน่าห่วง
เปิดบทวิเคราะห์หลังเกม จีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดียม ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา บทพิพากษาฟอร์มแข้ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 2 แข้งสอบตก ! อีก 7 คนแค่พอผ่าน หลังบุกไปพ่ายเบรนท์ฟอร์ด 2-3 แพ้ 4 นัดรวดในลีก
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูลของกุนซืออาร์เนอ สล็อธ ยังคงจมดิ่งสู่ฟอร์มอันน่าผิดหวังอย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาบุกไปพ่ายแพ้ต่อ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด 2-3 เมื่อคืนวันเสาร์ (25 ต.ค.) ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยักษ์ใหญ่แห่งเมอร์ซีย์ไซด์ต้องปราชัยในลีกสูงสุดเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 โดยปัจจุบันหล่นไปอยู่อันดับที่ 6 ของตารางคะแนน
และนี่คือคะแนนความสามารถของผู้เล่นลิเวอร์พูลแต่ละคนในเกมนี้ จากสายตาของลิเวอร์พูล เอ็คโค่ (LiverpoolEcho)

จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี – 6/10 ทำอะไรไม่ได้มากนักกับทั้งสามประตูที่เสียไป มีจังหวะเซฟลูกยิงไกลได้ดี 2-3 ครั้ง แต่การเปิดบอลจากเท้ายังคงเป็นเครื่องหมายคำถามตลอดทั้งเกม
คอเนอร์ แบรดลีย์ – 6/10 เสียการทุ่มง่ายๆ ซึ่งนำไปสู่ประตูแรก การเติมเกมรุกในครึ่งแรกมีไม่มากนัก จนกระทั่งมาเปิดบอลเรียดให้ เคอร์เคซ ได้แอสซิสต์ประตูตีไข่แตก ถูกเปลี่ยนตัวออก
อิบราฮิมา โคนาเต้ – 5/10 ต้องต่อสู้ทางกายภาพกับ ติอาโก้ อย่างหนัก และพยายามทำให้กองหน้าเบรนท์ฟอร์ดรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่น แต่กลับเหม่อลอยในจังหวะเสียประตูที่สอง ดูไม่ค่อยมั่นคงนักตลอดทั้งเกม
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค – 5/10 มีจังหวะโหม่งสกัดสวยๆ อยู่บ้าง แต่การตัดสินใจในหลายจังหวะยังคงน่ากังขา แม้จะโชคร้ายเล็กน้อยที่เสียจุดโทษแบบก้ำกึ่ง
มิลอส เคอร์เคซ – 4/10 สร้างความไม่พอใจให้ ฟาน ไดจ์ค จากการยืนตำแหน่งในครึ่งแรก และแทบไม่มีอันตรายในเกมรุกเลย จนกระทั่งสอดขึ้นไปยิงประตูตีไข่แตกช่วงทดเจ็บครึ่งแรก แต่ฟอร์มครึ่งหลังก็ไม่ดีนัก โดนใบเหลืองและถูกเปลี่ยนตัวออก

โดมินิค โซบอสซ์ไล – 7/10 พยายามขับเคลื่อนเกมรุกของลิเวอร์พูลในช่วงต้นเกม และทำงานอย่างหนักตลอดทั้งสนาม เป็นคนที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาในขณะที่คนอื่นทำไม่ได้ แอสซิสต์ให้ประตูที่สองได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ต้องถูกโยกไปเล่นแบ็กขวาอีกครั้ง – เป็นการใช้งานที่เสียของอย่างชัดเจน
เคอร์ติส โจนส์ – 7/10 เก็บบอลในพื้นที่แคบๆ ได้ดี และต้องแสดงความสามารถในเกมรับออกมาหลายครั้ง เป็นอีกคนที่สมควรได้รับผลงานที่ดีกว่านี้จากเพื่อนร่วมทีมรอบตัว ก่อนจะได้รับบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออก
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 5/10 เสียการทรงตัวในจังหวะที่ “กัคโป” จ่ายบอลให้ และแทบจะหายไปจากเกมในครึ่งแรก มีจังหวะยิงติดบล็อกในครึ่งหลัง แต่เห็นได้ชัดว่าขาดความมั่นใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม น่าจะได้กำลังใจกลับมาบ้างจากการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมในประตูที่สอง โดนใบเหลือง

ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ – 4/10 เริ่มต้นได้ค่อนข้างดีและได้บอลเยอะพอสมควร ก่อนจะพลาดโอกาสทองและค่อยๆ เลือนหายไปจากเกมอย่างน่าผิดหวัง แม้จะไม่มีข้อกังขาเรื่องความขยันก็ตาม ถูกเปลี่ยนตัวออก
โคดี้ กัคโป – 5/10 สร้างโอกาสให้ ซาลาห์ ได้ครั้งหนึ่ง, ตัดเข้าในแล้วยิงข้ามคานไปครั้งหนึ่ง และพยายามเรียกจุดโทษแต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้ แต่ฟอร์มในครึ่งหลังตกลงไปมาก ถูกเปลี่ยนตัวออก
อูโก้ เอกิติเก้ – 5/10 มีส่วนผิดพลาดในสองประตูแรกของเบรนท์ฟอร์ด และเก็บบอลในแดนหน้าได้ไม่ดีนัก แต่การเข้าป้วนเปี้ยนที่เสาแรกของเขาก็มีส่วนช่วยให้ทีมได้ประตูตีไข่แตก


ตัวสำรอง
เฟเดริโก้ เคียซ่า (ลงแทน กัคโป น.62) – 5/10 ไม่สามารถสร้างผลกระทบต่อเกมได้มากนัก
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (ลงแทน เคอร์เคซ น.62) – 5/10 ทำอะไรไม่ได้มากเช่นกัน
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ลงแทน แบรดลีย์ น.62) – 6/10 เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นดาวเตะอาร์เจนไตน์กลับมาลงสนามอีกครั้ง
ริโอ เอ็นกูโมฮา (ลงแทน โจนส์ น.71) – 6/10 เป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับดาวรุ่งที่จะลงมากอบกู้สถานการณ์ในเกมแบบนี้
โจ โกเมซ (ลงแทน เวิร์ตซ์ น.83) – ไม่มีคะแนน (บางทีอาจจะสมควรได้รับโอกาสลงเล่นมากกว่านี้)

อ้างอิงจากสกายสปอร์ตส (Sky Sports) คะแนนผู้เล่นเบรนท์ฟอร์ด : เคลเลเฮอร์ (7) – คาโยเด (7), คอลลินส์ (7), ฟาน เดน เบิร์ก (7), อาเจอร์ (7) – เฮนเดอร์สัน (8), ยาร์โมลยอก (6); อ็อตทารา (8), ดัมสการ์ด (7), เชด (8) – ติอาโก้ (8)
สำรอง : ยาเนลต์ (7), ลูอิส-พอตเตอร์ (ไม่มี), เจนเซ่น (ไม่มี), อองรี (ไม่มี), ออนเยก้า (ไม่มี)
แมนออฟเดอะแมตช์ : ดังโก้ อ็อตทารา (8) กองหน้าเบรนท์ฟอร์ด อายุ 23 ปี

เสียงสะท้อนจากข้างสนาม นายใหญ่หงส์แดงรับสภาพ-ชี้คู่แข่งจับทางได้หมดแล้ว ด้าน “คีธ แอนดรูว์ส” เผย กุญแจสู่ชัยชนะเหนือแชมป์เก่า
อาร์เน่อ สล็อธ กุนซือลิเวอร์พูล ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขา ไม่คาดคิดว่าทีมจะพ่ายแพ้ถึง 4 นัดติดต่อกันและชี้ว่าคู่แข่งดูเหมือนจะค้นพบสูตรสำเร็จในการรับมือกับสไตล์การเล่นของพวกเขาแล้ว “ผมพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วว่าหลายทีมมีสไตล์การเล่นที่แน่นอนในการเจอกับเราซึ่งมันเป็นกลยุทธ์ที่ดีมาก และเราก็ยังหาคำตอบให้กับมันไม่ได้
กุนซือดัตช์วัย 47 ปีกล่าวอีกว่า และการที่ทีมของเขาต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-1 ตั้งแต่ 5 นาทีแรกอยู่เสมอมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนผสมของเรื่องนั้น ที่หลายทีมรู้ว่าจะต้องเล่นกับเราอย่างไร แต่ถึงกระนั้นแม้ในวันที่เราเล่นไม่ดี เราก็ยังสามารถยิงได้ 2 ประตู และสร้างโอกาสได้มากกว่านั้น

เขายังคงชี้ไปที่ปัญหาหลกเดิมๆ “เราไม่สามารถแข่งขันในระดับบนได้ เพราะเราเสียประตูง่ายเกินไป และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมมองไปที่แนวรับเพียงอย่างเดียว แต่มันคือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้ง 11 คน”
สล็อธยังได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทีมในช่วงซัมเมอร์แน่นอนว่า มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่คุณเปลี่ยนแปลงทีมค่อนข้างมากในช่วงซัมเมอร์ ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แต่ผมก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเลวร้ายถึงขั้นแพ้ 4 นัดติดต่อกัน
ด้าน คีธ แอนดรูว์ส กุนซือเบรนท์ฟอร์ด อายุ 45 ปี เผยสิ่งที่เขาบอกกับลูกทีมในช่วงพักครึ่ง หลังจากที่เสียประตูตีไข่แตกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
“นี่เป็นเกมที่สองติดต่อกันแล้วที่เราต้องเจอความผิดหวังก่อนหมดครึ่งแรกและข้อความสำคัญที่ผมบอกพวกเขาคือ เราจะไม่ถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว แต่เราจะก้าวไปข้างหน้าในครึ่งหลัง'”
“เมื่อเราเริ่มต้น เราต้องบุกเข้าใส่พวกเขาและผมคิดว่านั่นคือกุญแจสำคัญเพราะถ้าคุณถอยหลัง พวกเขา (ลิเวอร์พูล) จะได้ใจและจะฉวยโอกาสจากมันทันที แต่เราไม่ยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น มันเป็นผลการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่สำหรับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ที่สามารถเอาชนะแชมป์พรีเมียร์ลีกได้”

เฮนเดอร์สันให้เกียรติทีมเก่า แต่ไม่ลืมอวยเพื่อนร่วมทีมผึ้งน้อยผู้ฆ่ายักษ์
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางเบรนท์ฟอร์ดวัย 35 ปี และอดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล กล่าวเปิดใจและประเด็นที่น่าสนใจหลังเกม
“ตั้งแต่ต้นจนจบเราสู้ด้วยกันเป็นทีมและลิเวอร์พูลคือทีมระดับโลก ดังนั้นมันจึงมีช่วงเวลาที่เราต้องตั้งรับ แต่รูปแบบการเล่นเกมรับร่วมกันของเรา, การครองบอลอย่างใจเย็น แทนที่จะเตะทิ้งไปข้างหน้า โดยรวมแล้ว มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีจริงๆ และเราสมควรได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด”
เขายังคงแสดงความเคารพต่อทีมเก่า
“คุณมองไปทั่วสนาม พวกเขามีผู้เล่นคุณภาพสูงอยู่ทุกตำแหน่ง คุณหาจุดอ่อนที่ชัดเจนไม่ได้หรอก ผมรู้ว่าผลงานช่วงหลังของพวกเขาไม่ดีนัก แต่สำหรับผมแล้ว พวกเขายังคงเป็นผู้เล่นระดับท็อปและทีมระดับท็อป มันเป็นเรื่องของการหาจังหวะและเครื่องติดเท่านั้น” เฮนโด้ ทิ้งท้าย




อ่านข่าวกีฬารอบโลกที่น่าสนใจ
- รีบไปดูไวรัลฮาลั่น พ่อผี-ลูกหงส์ ควันหลงลิเวอร์พูลแพ้แมนยูฯ 1-2 โฮหนัก ขายดิอาสทำไม
- ตัดเกรดแข้งเรือใบ-ผี เกมขาด 3-0 อโมริม กำลังหมดเวลา สถิติคุมทีมชี้ % ชนะสุดแย่
- ไทยลีก ยันแล้วไม่งด-ไม่เลื่อน เน้นปรับรูปแบบเพิ่มกระบวนการร่วมแสดงความอาลัย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





