เกาหลีใต้ เจอโพสต์หางาน ลวงเหยื่อเป็น “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ในไทย หลังย้ายฐานหนีจากเขมร

สื่อเกาหลีใต้เผย องค์กรอาชญากรรมเล็งไทยเป็นที่มั่นใหม่ หลังถูกกวาดล้างหนักในกัมพูชา หลักฐานชัดพบโฆษณาล่อลวง “พนักงานการตลาด” ในกรุงเทพฯ พร้อมข้อเสนอผลตอบแทนสูง
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม สำนักข่าวเกาหลีใต้รายงานว่า มีการพบข้อความรับสมัครงานที่น่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โพสต์อยู่ในเว็บไซต์จัดหางานชั้นนำของเกาหลีใต้ ข้อความนี้ระบุว่า “รับสมัครพนักงาน TM สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ประเทศไทย กัมพูX” โดยคำว่า TM ย่อมาจาก Telemarketing และการใช้ “กัมพูX” อาจเป็นการจงใจหลีกเลี่ยงประเทศกัมพูชาที่ถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงในปัจจุบัน โฆษณาเหล่านี้มักมีข้อเสนอที่จูงใจสูง เพื่อล่อลวงให้คนที่มีปัญหาทางการเงินไปร่วมก่ออาชญากรรมฉ้อโกง
องค์กรอาชญากรรมเหล่านี้มีแนวโน้มย้ายฐานปฏิบัติการไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย หลังเผชิญกับการกวาดล้างครั้งใหญ่ในประเทศกัมพูชา สาเหตุมาจากการเสียชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวเกาหลีใต้ที่ถูกทรมานเมื่อไม่นานมานี้ โฆษณารับสมัครงานที่พบมีการให้คำมั่นสัญญาว่า “ผู้ที่กำลังลำบากเพราะมีหนี้สินหรือปัญหาทางการเงิน เราอยากให้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับบริษัท” และ “เรากล้ารับประกันการดูแลที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม มีที่พัก ตั๋วเครื่องบิน วีซ่า เงินกู้ล่วงหน้า และค่าครองชีพให้”

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ในการตรวจสอบกระทรวงแรงงาน ส.ส. โจ จียอน จากพรรคพลังประชาชน (People Power Party) กล่าวว่ามีการโฆษณาจัดหางานที่ใช้ผลตอบแทนสูงเป็นเหยื่อล่อ โดยยกตัวอย่างข้อความโฆษณาที่ว่า “โอกาสรับ 10 ล้านวอนต่อเดือนแน่นอน รับสมัครพนักงานหญิงและชาย” และบางโฆษณาอ้างเงินเดือนสุทธิสูงสุดที่ 41.5 ล้านวอน เพื่อดึงดูดผู้สนใจ
นายพัก จินยอง นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยชอนบุก อธิบายถึงการย้ายฐานของกลุ่มอาชญากรรมว่า เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เพราะกัมพูชามีพรมแดนติดกับไทย ลาว และเวียดนาม แนวชายแดนยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ทำให้การป้องกันชายแดนไม่เข้มงวดเหมือนเกาหลีใต้ นอกจากนี้บางพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ติดกับไทยและเมียนมาเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสัญชาติ ทำให้การลักลอบเข้าประเทศเป็นเรื่องง่าย
นายชิม อินซิก นักวิเคราะห์อาวุโสจากสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ให้ข้อเสนอแนะว่า การตอบโต้เป็นรายกรณีอาจไม่สามารถยับยั้งปรากฏการณ์ลูกโป่งได้ เนื่องจากองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ดำเนินการเกินขอบเขตของประเทศ จึงมีความจำเป็นที่ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาค เพื่อรับมือและป้องกันไม่ให้องค์กรอาชญากรรมเหล่านี้กลับมากัมพูชาอีกครั้ง หากการกวาดล้างลดความเข้มข้นลง
ที่มา: Hankook Ilbo
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อัฐินศ.เกาหลีใต้ เหยื่อแก๊งคอลฯ กัมพูชา กลับถึงบ้านเกิดแล้ว หลังถูกทรมานดับ
- เกาหลีใต้ ร้อง UN เดินหน้าร่วมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเขมรจริงจัง
- ชายเกาหลีใต้ ขอความช่วยเหลือกลางถนนสีหนุวิลล์ วอนนำตัวส่งสถานทูต
ติดตาม The Thaiger บน Google News: