“ปวิน” ตัดพ้อ ยังไม่เห็นยอดบริจาค “มูลนิธิกันจอมพลัง” ถามแรง จงใจไม่มีชื่อเป็นผู้บริหารหรือไม่

“อ.ปวิน” ถามแรง “กัน จอมพลัง” ไม่มีชื่อในบอร์ดมูลนิธิตัวเอง ชี้เป็นการจงใจเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายหรือไม่
22 ตุลาคม 2568 รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งประเด็นคำถามที่น่ากังวลอย่างยิ่งต่อ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” หลังจากยอมรับว่าไม่มีชื่อเป็นผู้บริหารในมูลนิธิที่ใช้ชื่อของตนเองจดทะเบียน
รศ.ดร.ปวิน ระบุว่า “การที่กันจอมพลังยอมรับว่า ไม่มีชื่อเป็นผู้บริหารของมูลนิธิที่ใช้ชื่อของตนเองจดแจ้ง ถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งค่ะ เพราะในทางกฎหมายนั่นหมายความว่า เขาไม่อยู่ในขอบเขตของความรับผิดชอบโดยตรงหากมูลนิธิบริหารผิดพลาด ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ หรือเกิดการทุจริต ความรับผิดชอบจะตกอยู่กับคณะกรรมการมูลนิธิตามเอกสารเท่านั้น ไม่ใช่กับบุคคลที่มีบทบาทจริงในการดำเนินงาน
คำถามคือ การไม่มีชื่อนั้นเป็นเพียงเรื่องทางเทคนิคหรือความจงใจ? หากเป็นความจงใจ ย่อมสะท้อนถึงความพยายามตัดตัวเองออกจากความรับผิดทางกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ยังคงมีบทบาทเชิงอิทธิพลในมูลนิธิ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สร้างความเสี่ยงต่อความโปร่งใสอย่างชัดเจนด้วยค่ะ
ที่ผ่านมา การที่กันจอมพลังออกมาประชาสัมพันธ์การเปิดรับบริจาคนั้นไม่ผิด แต่เมื่อเขาเริ่มเข้ามามีส่วนในการใช้จ่ายเงินบริจาคเพื่อกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดซื้อยุทธภัณฑ์ หรือโครงการช่วยเหลือที่เขาประกาศเอง คำถามคือ เขาดำเนินการในฐานะอะไร

ตัวแทนมูลนิธิอย่างเป็นทางการ หรือบุคคลภายนอกที่เข้ามาจัดการเงินของมูลนิธิ? หากเป็นอย่างหลัง นั่นคือปัญหา เพราะจะทำให้การใช้เงินบริจาคไม่อยู่ภายใต้ระบบตรวจสอบของคณะกรรมการมูลนิธิ การเบิกจ่ายจึงอาจกลายเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากกว่าภารกิจสาธารณะ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นช่องโหว่ในระบบการกำกับดูแลของมูลนิธิ ที่อาจถูกใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์การช่วยเหลือโดยปราศจากความรับผิดที่แท้จริง
ดิชั้นเห็นว่า กรณีของกันจอมพลังควรถูกมองเป็นตัวอย่างของปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคมูลนิธิของไทย ซึ่งยังขาดระบบตรวจสอบที่ทันสมัยและโปร่งใสเพียงพอ โดยเฉพาะมูลนิธิที่ใช้ “ชื่อบุคคล” เป็นแบรนด์หลักในการระดมทุน แต่โครงสร้างภายในกลับไม่สะท้อนความรับผิดของบุคคลนั้นจริง
ขณะเดียวกัน ภาครัฐควรกำหนดให้ผู้มีบทบาทสาธารณะในการระดมทุนของมูลนิธิต้องมีสถานะทางกฎหมายที่ตรวจสอบได้ เช่น ต้องมีชื่อเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาทางการอย่างเป็นทางการ เพื่อให้การใช้ชื่อและบทบาทสาธารณะสอดคล้องกับความรับผิดทางกฎหมาย
นอกจากนี้ ควรมีการเปิดเผยบัญชีรายรับรายจ่ายของมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสาธารณะต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างมาตรฐานความโปร่งใส และป้องกันไม่ให้ “มูลนิธิ” ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางภาพลักษณ์ หรือเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มในนามของการทำความดีค่ะ แหกปากมาหลายวัน ดิชั้นยังไม่เห็นการเปิดเผยตัวเลขเงินบริจาคของกันจอมพลังค่ะ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดข้อบังคับชัด “มูลนิธิกันจอมพลัง” เงื่อนไขหากเลิกล้ม ทรัพย์ตกมูลนิธิธรรมนัสฯ
- “กัน จอมพลัง” ยันเป็นคนตั้งมูลนิธิเอง แจงทำไมไม่ได้เป็นประธาน-กก.
- ชัดเจน! กัน จอมพลัง รับ เป็นแค่ที่ปรึกษา ไม่ใช่ประธานมูลนิธิ “ช่วยสู้”
ติดตาม The Thaiger บน Google News: