สภาฯ มีมติ 184 ต่อ 133 เสียง ค้านนิรโทษกรรมเยาวชน-ผู้ต้องหาคดี 112 แบบมีเงื่อนไข

สภาผู้แทนราษฎรมีมติ 184 ต่อ 133 เสียง ยืนตามร่าง กมธ.เสียงข้างมาก ไม่รวมการนิรโทษกรรมคดี ม.112 แบบมีเงื่อนไขและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีไว้ในร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข
21 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธาน ได้เข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ซึ่งมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธาน พิจารณาเสร็จแล้ว
การประชุมพิจารณามาตรา 3 ของร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้ พ.ร.บ. นี้ มิให้ใช้บังคับ แก่บุคคลที่กระทำความผิดอันมีมูลเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 โดย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะ กมธ.ผู้สงวนคำแปรญัตติ เสนอให้รวมการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปด้วย
น.ส.ศศินันท์กล่าวต่อสภาว่า มาตรา 3 ที่กำหนดไว้นั้น เหมือนเป็นการจำกัดการนิรโทษกรรมให้เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น จึงขอความเห็นใจ สส. ให้แก้ไขมาตรานี้ เพื่อปลดพันธนาการให้คนอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติและกลับไปเรียนหนังสือได้ เธอยืนยันว่าการปลดล็อกในส่วนของเยาวชน จะไม่นำไปสู่การนิรโทษกรรมทันที แต่จะต้องเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการตามกฎหมายอยู่ดี ซึ่งการโหวตตามที่เธอเสนอจะเป็นผลดีและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยตามหลักอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย เสนอให้แก้ไขมาตรา 3 โดยให้มีการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข ยกเว้นความผิดฐานทุจริต ความผิดที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส และความผิดต่อส่วนตัว นายชัยธวัชกล่าวว่า ข้อเสนอนี้เป็นความพยายามหาจุดตรงกลาง เพราะเชื่อว่าหากกีดกันคดีที่มีนัยสำคัญทางการเมืองในปัจจุบันออกไป กฎหมายนี้จะ ไม่สามารถสร้างสังคมสันติสุขได้อย่างแท้จริง และอาจกลายเป็นการ บ่มเพาะบาดแผลและความขัดแย้ง ในสังคมไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หลังจากการหารือและพักการประชุม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธาน กมธ. ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ที่ประชุมมีข้อยุติให้มาตรา 3 เป็นไปตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอ แต่มีการปรับแก้เนื้อหาในมาตรา 9/1 แทน น.ส.ศศินันท์แสดงความผิดหวังกับผลสรุป และกล่าวเตือนว่า การที่ต้องหาวิธีเลี่ยงบาลีและมองคนอีกกลุ่มเป็นคนตรงข้าม จะทำให้ พ.ร.บ.นี้ ไม่สามารถสร้างเสริมสันติสุขได้
เวลา 13.35 น. ที่ประชุมได้ลงมติตัดสิน โดยผลการลงคะแนนพบว่า มติเสียงข้างมาก 184 เสียง เห็นด้วยกับร่างมาตรา 3 ตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอ ขณะที่ 133 เสียง เห็นด้วยกับข้อเสนอของ กมธ.เสียงข้างน้อย ซึ่งหมายถึงการ ไม่เห็นชอบ ให้รวมการนิรโทษกรรมเยาวชนและคดีมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไขไว้ในร่างกฎหมายนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด” มติที่ประชุมสภาฯ ถกมาราธอน ก่อนผ่านฉลุย 309 เสียง
- เปิด 3 นโยบายเรือธง “พปชร.” เบี้ยผู้สูงอายุ 5000 มารดาประชารัฐ-เรียนฟรี ตั้งครรภ์รับ 37000 บ.ชุมสภา
- เกมพลิก! รัฐสภาโหวต ร่างแก้ รธน. พรรคประชาชน เป็นร่างหลัก ชนะภูมิใจไทย หลังเพื่อไทยเทคะแนนหนุน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: