ข่าวอาชญากรรม

เกาหลีใต้ แฉกลลวงใหม่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา” ส่ง SMS ล่าเหยื่อทันทีที่เหยียบสนามบิน

เหยื่อรายต่อไปอาจเป็นคุณ เผยกลลวงใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา ส่ง SMS ล่าเหยื่อทันทีที่เหยียบสนามบิน-จุดชนวนคำถาม “ข้อมูลส่วนตัว” รั่วจากไหน

สถานการณ์การลักพาตัวและบังคับใช้แรงงานชาวเกาหลีใต้ในประเทศกัมพูชา ได้พลิกผันไปสู่ทิศทางที่น่ากังวลยิ่งขึ้น เมื่อการสืบสวนของสำนักข่าว YTN พบว่า องค์กรอาชญากรรมได้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการส่งข้อความล่าเหยื่อโดยตรงไปยังนักท่องเที่ยวทันทีที่เดินทางถึงประเทศ

ปรากฏการณ์นี้ได้จุดชนวนความหวาดกลัวครั้งใหญ่ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เดินทางอาจกำลังรั่วไหลไปสู่มือขององค์กรอาชญากรรมในระหว่างขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง

เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดย นายเอ (นามสมมติ) ชายชาวเกาหลีใต้ผู้เดินทางไปยังกรุงพนมเปญพร้อมกับเพื่อนๆ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาเล่าว่า เพียงหนึ่งวันหลังจากที่เขาเดินทางมาถึง เขาก็ได้รับข้อความตัวอักษรภาษาจีนที่น่าสงสัยส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ข้อความดังกล่าวเป็นการประกาศรับสมัครพนักงานคอลเซ็นเตอร์พาร์ทไทม์ โดยเสนอเงินเดือนสูงลิ่วพร้อมที่พัก และที่น่าขนลุกที่สุดคือ ข้อความนั้นระบุอย่างเจาะจงราวกับรู้ข้อมูลของนายเออยู่แล้วว่า รับสมัครเฉพาะ “ชาวต่างชาติ” เท่านั้น

“มันเป็นไปได้อย่างไรที่ผมจะได้รับข้อความแบบนี้ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ผมเพิ่งจะมาถึง?” นายเอกล่าวด้วยความสับสน

และเขาไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับข้อความนี้ เพื่อนอีกคนในกลุ่มของเขาก็ได้รับข้อความที่มีเนื้อหาเดียวกัน

ในตอนแรก กลุ่มของนายเอไม่ได้ตอบกลับข้อความดังกล่าวเพราะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล แต่พวกเขาก็ต้องตกใจอย่างขีดสุดในเวลาต่อมา เมื่อได้ทราบข่าวการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการใช้ “เงิน” เป็นเหยื่อล่อเช่นนี้

อ้างอิงจากบทความชิ้นหนึ่งของโคเรียไทม์ส (Koreatimes) ซึ่งออกมาเปิดตัวเลขพลเมืองเกาหลีตกเป็นเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา โดยในปี 2023 มีรายงานชาวเกาหลีถูกลักพาตัวในกัมพูชาราว 30 คน ตัวเลขนี้พุ่งสูงขึ้นเป็น 220 คนในปี 2024 และเพียงแค่ถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ ตัวเลขก็ทะยานไปถึง 330 คนแล้ว

แม้จะมีสัญญาณเตือนที่ชัดเจนเช่นนี้ แต่กระทรวงการต่างประเทศกลับล้มเหลวที่จะยกระดับปัญหานี้ให้เป็นวาระสำคัญ ไม่มีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ และไม่มีการวางแผนรับมืออย่างเป็นระบบ

หนึ่งในผู้รอดชีวิตได้เล่าถึงวินาทีที่เขาโทรศัพท์ไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ในกรุงพนมเปญด้วยความหวาดกลัว แต่แทนที่จะได้รับความช่วยเหลือในทันที เจ้าหน้าที่สถานทูตนิรนามคนหนึ่งกลับบอกให้เขา “ไปติดต่อตำรวจกัมพูชาด้วยตัวเอง” และเมื่อเขาอธิบายว่าพูดภาษาท้องถิ่นไม่ได้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ตอบกลับมาอย่างน่าเหลือเชื่อว่า “ให้ใช้ Google Translate โดยต่อมาได้สร้าง

ความเจ็บปวดและสิ้นหวังที่ครอบครัวของผู้สูญหายคนอื่นๆ ต้องเผชิญ ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน “รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ได้อยู่ที่นั่นในยามที่พลเมืองของตนต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด”.

ภาพ @ytnnews24
ภาพ @ytnnews24
ภาพ @ytnnews24
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
แฟ้มภาพ

ขอบคุณคลิป : @ytnnews24

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button