ข่าว

เกาหลีใต้ เตือนห้ามเดินทางไป “กัมพูชา” เหตุพลเมืองถูกอุ้ม-ทรมานในนรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เกาหลีใต้เตือนประชาชนห้ามเดินทางไปยังกัมพูชา หลังเหตุชาวเกาหลีถูกหลอกไปทำงานและถูกกักขัง ลั่นใช้ทุกมาตรการ หลังพลเมืองถูกอุ้ม-ทรมานใน นรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กัมพูชา

วันนี้ (13 ต.ค.68) รัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศเตือนประชาชนไม่ให้เดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หลังมีชาวเกาหลีหลายคนถูกหลอกไปทำงานและถูกกักขังไว้ในพื้นที่ดังกล่าว คำเตือนนี้ถือเป็น “ระดับพิเศษ” ซึ่งหมายความว่าควรงดเดินทางไปโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังมีหลายจังหวัดของกัมพูชาที่อยู่ในระดับเตือนสูงสุด เช่น สีหนุวิลล์ เกาะกง และพระตะบอง

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ขอให้ผู้ที่อยู่ในกัมพูชาเพิ่มความระมัดระวัง และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับคำเตือนอีกครั้งหากจำเป็น

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้
ภาพ X @mofa_kr

รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศคำมั่นสัญญาที่จะยกระดับมาตรการทางการทูตและความมั่นคงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปกป้องพลเมืองของตนในประเทศกัมพูชา ท่ามกลางสถานการณ์การลักพาตัวและการบังคับใช้แรงงานที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งรวมถึงโศกนาฏกรรมล่าสุดของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปี ที่ถูกทรมานจนเสียชีวิตหลังจากถูกหลอกลวงด้วยข้อเสนองานปลอม

ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงเมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค.68 ว่า อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “ดำเนินการทางการทูตอย่างเต็มกำลัง” เพื่อคุ้มครองชาวเกาหลีใต้จากอาชญากรรมในกัมพูชา

กระทรวงการต่างประเทศได้ร้องขอความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชา และเตรียมพร้อมที่จะ “ใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น”

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเลขรายงานการลักพาตัวพลเมืองเกาหลีใต้ในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากข้อมูลของ ส.ส. คิม กอน แห่งพรรคพลังประชาชน ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคมปีนี้ รัฐบาลได้รับรายงานการลักพาตัวในกัมพูชาแล้วถึง 330 กรณี ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 220 กรณีในปี 2024 และแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตัวเลขเพียง 21 กรณีในปี 2023 และ 11 กรณีในปี 2022

แฟ้มภาพ

คดีฉาวอุ้มหายนักศึกษา “ปาร์ค” จากข้อเสนองานสู่ความตาย

ชนวนเหตุสำคัญที่จุดกระแสความโกรธแค้นในเกาหลีใต้ คือ การเสียชีวิตของนักศึกษาหนุ่มนามสกุล “ปาร์ค” ร่างของเขาถูกค้นพบระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ 14 คนใกล้กับเมืองกัมปอตเมื่อเดือนสิงหาคม

จากการสืบสวนพบว่า นักศึกษาแดนโสมเสียชีวิตเพียง 1 เดือนหลังจากเดินทางมาถึงกัมพูชาและถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ โดยสาเหตุการเสียชีวิต คือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นหลังถูกทรมาน ขณะนี้ตำรวจเกาหลีใต้กำลังพยายามประสานงานเพื่อชันสูตรศพร่วมกับทางการท้องถิ่น ก่อนจะนำร่างของเขากลับคืนสู่มาตุภูมิ

ด้าน พัค ชัน-แด สส.จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเหยื่อหลายราย ประกาศว่าจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นอภิปรายในรัฐสภา เขายังได้ชี้ถึงปัญหาสำคัญที่ทางการกัมพูชามักจะเรียกร้องให้มี “รูปถ่ายหรือวิดีโอ” ของเหยื่อขณะถูกลักพาตัวเป็นหลักฐานก่อนจะเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือ

ขณะที่พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ได้เรียกร้องให้มีการตอบโต้ที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้น

“แทนที่จะพึ่งพาช่องทางการทูตเพียงอย่างเดียว เกาหลีใต้ควรส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังพื้นที่ และแสวงหาความร่วมมือกับตำรวจสากล (Interpol) และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นโดยตรง” โฆษกพรรค ระบุ

ทั้งนี้ “ศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่องค์กรนิรโทษกรรมสากลประเมินว่า มีอยู่ถึง 53 แห่งทั่วกัมพูชา และได้กลายเป็นวิกฤตการณ์ทางการทูตครั้งสำคัญ ที่มีชีวิตของพลเมืองผู้บริสุทธิ์เป็นเดิมพัน.

แฟ้มภาพ
ภาพ @AP
ผู้โดยสารเรือเฟอร์รี่ข้ามแม่น้ำโขง ขณะโดยสารเรือจากสวายจรุมไปยังพนมเปญ ประเทศกัมพูชา 4 ตุลาคม 2568 (AP Photo/Heng Sinith)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button