
นักวิเคราะห์ เปิดมุมมองอีกด้าน ชี้เอกสารขายหุ้นมีผลทางกฎหมาย สัญญาใจฟังไม่ขึ้น แนะประเมินมูลค่าหุ้น 25% ตามจริง ชี้การใช้กระแสสังคมกดดันอาจไร้ผลเมื่อสู้กันในศาล
ท่ามกลางกระแสสังคมที่ส่วนใหญ่ให้กำลังใจ เม พรีมายา ในกรณีพิพาทกับหุ้นส่วนคลินิกเสริมความงาม ญาญ่า เขมณัฏฐ์ หมอต่อ กับหมอกลาง ได้มีมุมมองการวิเคราะห์ในเชิงกฎหมายและธุรกิจจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Senee Kasemvud ซึ่งให้ความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป กำลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์
ผู้โพสต์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมองในมุมของศาล คดีนี้อาจไม่เป็นผลดีกับฝั่งของเม พรีมายา โดยได้วิเคราะห์เป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้
เอกสารซื้อขายหุ้นมีผลทางกฎหมายเหนือสัญญาใจ ประเด็นสำคัญที่สุดคือ สัญญาซื้อขายหุ้นที่มีลายเซ็นของเม พรีมายา ถือเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักในทางกฎหมาย แม้จะมีการอ้างว่าเป็นเพียงการฝากหุ้นหรือ “สัญญาใจ” แต่ศาลมักจะพิจารณาตามเอกสารเป็นหลัก ทำให้การซื้อขายหุ้นอาจถูกมองว่าสมบูรณ์ไปแล้ว
“แบรนด์” กับ “บริษัท” เป็นคนละส่วนกัน ผู้โพสต์ชี้ว่า เครื่องหมายการค้า (Trademark) ของแบรนด์ “Dermatist” ไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัทที่เม พรีมายา ถือหุ้นอยู่ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยบุคคลเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ ใครจดก่อนย่อมมีสิทธิ์ก่อน การที่เมถือหุ้น 25% ในบริษัทที่บริหารเพียง 2 สาขา ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นเจ้าของแบรนด์ Dermatist ทั้งหมด
ประวัติ “ญาญ่า เขมณัฏฐ์” CEO หุ้นส่วน “เม พรีมายา” เจ้าแม่ธุรกิจความงาม
การประเมินมูลค่าหุ้นที่อาจสูงเกินจริง การที่เม พรีมายา ต้องการเรียกเงินค่าหุ้น 50-100 ล้านบาท ถูกมองว่าเป็นการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริง เนื่องจากสัดส่วนหุ้น 25% ของเธอ อยู่ในบริษัทเก่าที่มีสาขาในความดูแลเพียง 2 แห่ง ซึ่งรายได้ไม่น่าจะสูงพอที่จะคำนวณเป็นมูลค่าดังกล่าวได้ ผู้โพสต์ประเมินว่า หากขายได้ในราคา 10 ล้านบาท ก็ถือเป็นผลตอบแทนที่สูงมากแล้วจากเงินลงทุนเริ่มต้น
อำนาจต่อรองของผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อย ในทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้น 25% ถือเป็นเสียงข้างน้อย ซึ่งมีอำนาจต่อรองน้อยกว่าฝั่งผู้ถือหุ้น 75% ที่เป็นเสียงข้างมาก การใช้กระแสสังคมกดดันอาจไม่ได้ผลในทางปฏิบัติ เพราะสุดท้ายแล้วผู้ถือหุ้นเสียงข้างมากสามารถใช้สิทธิ์ทางกฎหมายในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของบริษัทได้ รวมถึงการตัดสินใจปิดบริษัทเพื่อชำระบัญชี
ผู้โพสต์สรุปทิ้งท้ายว่า การที่อีกฝ่ายเลือกที่จะปิดบริษัทและชำระบัญชี อาจเป็นทางออกที่ง่าย จ่ายน้อยกว่าการยอมจ่ายเงินตามข้อเรียกร้องที่สูงเกินมูลค่าจริงของหุ้น ซึ่งสุดท้ายอาจทำให้ฝั่งของเม พรีมายา ได้รับส่วนแบ่งน้อยกว่าที่ควรจะได้หากเจรจากันด้วยดีตั้งแต่แรก มุมมองดังกล่าวได้สร้างการถกเถียงและทำให้ผู้ติดตามคดีได้เห็นภาพรวมจากอีกมิติหนึ่งที่เน้นข้อเท็จจริงทางกฎหมายและกลยุทธ์ทางธุรกิจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “หมอของขวัญ” กางประวัติเพจคลินิก สวน “ญาญ่า” ไม่เกี่ยว “เม พรีมายา” จริงหรือ
- สรุปไทม์ไลน์ คลินิก เม พรีมายา VS ญาญ่า 2 หมอ ดร.เคท ทำให้เผื่อใครงง
- “หมอต่อ” โฟนอินกลาง โหนกระแส ยัน ศาลตัดสินไม่ผิด ปม “หมอกวาง” กล่าวหา ทิ้งคนไข้
- รู้จัก “หมอต่อ ภาณุพงศ์” แพทย์ความงามดัง ที่เคยเกือบได้เป็นสจ๊วต-จิตแพทย์
- หมอกลาง เปิดใจครั้งแรก เคยท้อแท้-ฝืนทั้งน้ำตา ยันสร้างแบรนด์ด้วยใจ ปมอ้างฮุบบริษัท
ติดตาม The Thaiger บน Google News: