ภูเก็ต – เฮี้ยนวิญญาณบุตรชาย สท.ภูเก็ต เข้าสิงร่างพี่สาว ขณะขึ้นเมรุเตรียมเผา ร้องลั่นค้านไม่ให้เผาศพ พ่อตัดสินใจเก็บศพไว้ไม่มีกำหนด เผยคาใจหลายประเด็นวอนผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรม
จากกรณี เมื่อเวลา 03.30 น.ของวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายธีรศักดิ์ แซ่อ๋อง อายุ30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/22 ม.2 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ในระยะเผาขนจนเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ซึ่งเป็น บุตรชายของนาย เจริญ แซ่อ๋อง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรัษฎาเขต 1 (สท.เจี้ยว) อ.เมืองภูเก็ต
เหตุเกิดที่บริเวณ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือถนนเลียบคลองบางใหญ่ ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ก่อนถึง เตาเผาขยะมูลฝอย เทศบาลนครภูเก็ต ประมาณ 100 เมตร ต่อมา นายจักรกฤษ หรือดิว แสงสอาด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม.4 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา คนยิง ได้เข้ามอบตัวในที่สุด
ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ ( 23 ม.ค.62) ที่ศาลาเอนกประสงค์ของวัดกะทู้ ม.4 ต.กะทู้ อ.กะทู้สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายธีรศักดิ์ หรือโม ได้มีการสวดพระอภิบังสุกุลศพ และประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง ก่อนทำการเคลื่อนศพไปยังเมรุเพื่อทำการฌาปนกิจ ได้มีญาติๆ เพื่อนสนิทของนายธีรศักดิ์ และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเจริญ ผู้เป็นพ่อ มาร่วมในพิธีจำนวนมาก
ทันทีที่เสร็จพิธีทางสงฆ์ ได้เวลาเคลื่อนศพออกจากศาลาไปยังเมรุซึ่งอยู่ด้านหลังวัด ผู้ร่วมฌาปนกิจก็ได้มีการตั้งขบวนและเดินแห่โลกศพไปยังไปอย่างโศกเศร้า ขณะเดียวกันเพื่อนๆของนายธีรศักดิ์หรือโม ก็มีการนำรถจักรยานยนต์ 3 คัน ซึ่งเป็นของรักของหวงมาเบิ้ลเครื่องจนเสียงดังสนั่นเพื่อเป็นการส่งอาลัยแก่เพื่อนรัก
แต่ทันทีที่นำศพเข้าสู่เมรุและเตรียมการเผาอยู่นั้น ปรากฏว่า นางสาวแตง(ไม่ทราบชื่อจริง) ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของโม ได้เกิดอาการตั่วสั่น และหวีดร้องเสียงดัง ญาติๆต้องช่วยกันจับตัวไว้ โดยเมื่อจับใจความสำคัญพบว่า เสียงตะโกนดังกล่าวระบุว่า
ตนเองคือ วิญญาณนายธีรศักดิ์ โม และไม่ต้องการให้เผาเด็ดขาด ถึงแม้นายเจริญ ผู้เป็นพ่อจะพยายามเข้าไปขอ แต่ก็ไม่เป็นผล จึงสอบถามความเห็นญาติๆก่อนตัดสินใจยกเลิกการเผาศพตามคำขอและจะเก็บศพไว้ที่วัดก่อนไม่มีกำหนด ทำให้ร่างของพี่สาวเริ่มมีอาการสงบลง จึงพาตัวพี่สาวไปพบกับพระสงฆ์เพื่อรดน้ำมนต์
นายเจริญ เปิดเผย ว่า ตนเองเชื่อว่า นายธีรศักดิ์บุตรชายไม่ต้องการให้เผาศพเนื่องจากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงจะต้องเก็บศพไว้ต่อไม่มีกำหนด ในส่วนของคดีนั้นตนเองยังรู้สึกคาใจ ว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกไป และไม่ชี้แจงความคืบหน้าคดีต่อตนเองก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้ตนเองไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร จึงมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของครอบครัว
“ความจริงก่อนหน้านี้มีความคิดที่จะแห่โลงศพไปยังศาลากลางจังหวัดเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย แต่เมื่อมาพิจารณาแล้วก็รู้สึกไม่ดี คิดว่าเพื่อความสงบสุขของภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์ จึงขอพึ่งพากระบวนการยุติธรรมแทน”
และจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า บุตรชายของตนมีอาวุธปืนและเปิดฉากยิงก่อนนั้น แต่จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธปืนของลูกชาย มันหายไปไหน? ผู้เสียชีวิตไม่สามารถโยนปืนทิ้งเองได้ ขณะเดียวกันก็มีแค่พยานอีกฝ่าย ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงคำให้การและหลักฐานได้ หลังจากนี้ตนเองจะดำเนินการทางกฏหมายต่อไปเพื่อให้เกิดความยุติธรรม
ซึ่งนี่เกิดขึ้นกับลูกชายผม ซึ่งเป็นคนทำงานการเมืองท้องถิ่นหรือคนของสังคมแต่ยังไม่มีความยุติธรรม และถ้าเกิดขึ้นกับชาวบ้านตาสีตาสา ก็ยิ่งเชื่อว่าไม่มีความยุติธรรมแน่นอนจึงต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ตนเองมีลูกชายคนเดียว เลวบ้างดีบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นผู้ก่อการร้าย
อย่างไรก็ตามฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมกับตนและลูกด้วย ซึ่งตนเองหวังพึ่งกระบวนการยุติธรรมและเชื่อว่ากฏหมายไทยจะมีความยุติธรรม
- ติดตามเราได้ที่ :