ข่าว

สตม. แจงตรวจสอบ ป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต ไม่เกี่ยวสัญชาติไทย

โฆษก สตม. แจงตรวจสอบเจตนา ป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต กลางแยกห้วยขวาง ว่ามีเจตนาทำเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่ ยืนยันไม่เกี่ยวสัญชาติไทย

จากกรณีประเด็นฉาวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กับป้ายโฆษณารับทำหนังสือเดินทาง และสัญชาติต่างๆ เป็นภาษาจีน บริเวณสี่แยกห้วยขวางกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า “ซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ” 100% รับพาสปอร์ตและสัญชาติถูกกฎหมาย โดยระบุข้อความว่า 30 วันได้สัญชาติที่สอง ปลอดภัยเป็นความลับ ทำเสร็จก่อนค่อยจ่ายเงิน รับสมัครตัวแทนทั่วโลก! พร้อมคิดราคา อินโดนีเซีย 30,000 หยวน วานูอาตู 70,000 หยวน กัมพูชา 100,000 หยวน และตุรกี 150,000 หยวน และล่าสุดมีรายงานว่าป้ายดังกล่าวถูกถอดไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวมีข้อพิจารณาดังนี้ คือ

“1. การซื้อขายหนังสือเดินทางทั้ง 4 สัญชาติ ทำได้หรือไม่ ผิดกฏหมายไทยหรือไม่ ?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า หนังสือเดินทาง คือเอกสารรับรองการมีตัวตนในสัญชาตินั้นๆ ซึ่ง บุคคลนั้น ต้องได้เป็น บุคคลที่เป็น citizen ของชาตินั้นๆก่อน ดังนั้น ในกรณีนี้ ต้องดูว่า รัฐบาลทั้ง 4 สัญชาติ ยินยอมให้บุคคลต่างชาติใช้สัญชาติของประเทศตัวเองหรือไม่ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้นๆ เราคงไม่สามารถชี้แจงแทนประเทศนั้นๆได้ และการซื้อขายหนังสือเดินทางตามที่กล่าวอ้าง ก็ต้องหมายถึง การซื้อสัญชาตินั้นด้วย จึงจะออกหนังสือเดินทางชาตินั้นๆได้ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของรัฐบาลชาติดังกล่าวอีก ว่า สามารถอนุญาตให้ซื้อขายได้จริงหรือไม่ ?

2. การโฆษณาเช่นนี้ ผิดกฏหมายหรือไม่ ?

ประเด็นนี้ ต้องดูว่า การโฆษณานี้นั้น เข้าลักษณะหลอกลวงหรือไม่ เช่น พอมีลูกค้าจ่ายเงินแล้ว แต่ไม่มีการรับบุคคลนั้นเป็น citizen หรือ ไม่สามารถทำหนังสือเดินทางให้ได้จริง ก็อาจเข้าข่ายการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ และฉ้อโกงตามแต่พฤติกรรมที่ปรากฏ ซึ่งต้องมีผู้เสียหายมาแจ้งความ หรือ กรณีออกหนังสือเดินทางปลอมให้ ก็เข้าข่ายปลอมแปลงเอกสาร ฯ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดต้องดูตามข้อเท็จจริง ส่วนการขึ้นป้ายสาธารณะนั้น เป็นกฏหมายที่มีหน่วยงาน เขตพื้นที่ที่รับผิดชอบโดยตรง กำกับควบคุมดูแลและอนุญาตติดตั้ง ต้องให้หน่วยงานนั้นชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

อย่างไรก็ดี การเผยแพร่จำหน่ายหนังสือเดินทาง ลักษณะดังกล่าว มีข้อสงสัยว่า บุคคลที่ต้องการซื้อหนังสือเดินทางสัญชาติอื่น ทั้งที่ตนมีสัญชาติอยู่แล้ว มีเจตนาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มอบหมายฝ่ายสืบสวนทำการตรวจสอบกับ สถานกงสุล และ สถานทูตทั้ง 4 สัญชาติดังกล่าว ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อขยายผลต่อไป หากพบว่า มีเจตนาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทำผิดกฎหมาย จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button