รมว.ท่องเที่ยวมาเลเซีย ออกกฎเข้ม เหตุคู่รักชาวจีนเจอกล้องซ่อนในโรงแรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวมาเลเซีย ออกกฎคุมเข้มโรงแรมและที่พักทั่วประเทศ หลังคู่รักนักท่องเที่ยวชาวจีนเจอกล้องซ่อนอยู่ในห้องพัก หวั่นกระทบภาพลักษณ์
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา สำนักข่าว The Straitstimes รายงานเรื่องราวอุทาหรณ์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางไปพักในประเทศมาเลเซีย เมื่อคู่รักนักท่องเที่ยวชาวจีนพบว่าภายในห้องพักของพวกเขามีกล้องแอบถ่ายซ่อนอยู่ โดยมันถูกติดตั้งไว้ในเต้ารับปลั๊กไฟที่ติดอยู่กับผนัง
แหล่งข่าวระบุว่า คู่รักชาวจีนคู่นี้ได้โพสต์เรื่องที่พวกเขาเจอกล้องสอดแนมในห้องพักโรงแรมลงบนโลกออนไลน์เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกแชร์และกลายเป็นไวรัลในที่สุด มีสำนักข่าวหลายแห่งนำเรื่องนี้ไปเผยแพร่อีกหลายต่อ ทำเอาร้อนถึงผู้มียศในประเทศมาเลเซียที่ต้องลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
เรื่องราวเกิดขึ้ยภายในห้องพักของโรงแรม AirBnB เมืองโคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย โดยทาง พล.ต.ท.ไซดี อับดุลเลาะห์ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองโคตาคินาบาลู เปิดเผยรายละเอียดว่าคู่รักชาวจีนเข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2566 และในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังเร่งสืบหาตัวคนร้ายอยู่
สำหรับเรื่องราวจากฝั่งคู่รักชาวจีนที่ปรากฏในโลกออนไลน์ เผิดเผยว่าพวกเขาเดินทางมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ ในวันที่ 6 กันยายน 2566 และพบเจอกับเหตุการณ์สุดผวานั่นก็คือมีกล้องแอบถ่ายซ่อนอยู่ในเต้ารับบนผนังห้อง ซึ่งตำแหน่งของกล้องวางตรงเข้ามาทางเตียงพอดี ทำให้คู่รักชาวจีนคู่นี้ตัดสินใจโพสต์เรื่องนี้เพื่อนเตือนนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ
ทั้งนี้หลังจากแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้พวกเขาลบโพสต์ แต่ต่อมาในภายหลัง พล.ต.ท.ไซดี อับดุลเลาะห์ ก็ได้ปฏิเสธเรื่องลบโพสต์ว่าไม่เป็นความจริง งานนี้ร้อนถึง นายเตียง คิง ซิง รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมของมาเลเซีย ที่กล่าวว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดขั้นเด็ดขาด เนื่องจากทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศเสียหายอย่างหนัก
พร้อมกับกล่าวว่าหลังจากนี้จะออกกฎคุมเข้มพิเศษกับเจ้าของโฮมสเตย์ทุกรายที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวง หากใครฝ่าฝืนก็โดนโทษเพิกถอนใบอนุญาตและลดเกรดที่พัก โดยหลังจากนี้ทางเจ้าของที่พักต้องปฏิบัติตามกฎหมายและตรวจสอบประวัติพนักงานทุกคน อย่างไรก็ดีทางกระทรวงฯ ไม่ได้ปฏิเสธว่าเรื่องที่คู่รักชาวจีนพบนั้นไม่เป็นความจริง โดยในตอนนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ข้อมูลจาก : straitstimes และ xiaohongshu