รังสิมันต์ โรม ถามเกิดอะไรขึ้นกับประเทศเรา หลังศาลตัดสิทธิ ช่อ พรรณิการ์ ชี้ไม่เคยมีประเด็นทุจริต ไม่เคยบริหารงานจนเกิดความเสียหาย ไม่เอี่ยวยาเสพติด
จากกรณีที่ ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ อายุ 35 ปี อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ถูกถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามกฎหมายตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าวว่า “ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ตลอดจนมาถึงพรรคก้าวไกล เราทำหน้าที่ในสภามาแล้วเข้าสู่ปีที่ 5 เราตรวจสอบนักการเมืองหลายคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชัน ยาเสพติด การบริหารงานผิดพลาด สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ มีหลักฐานมากมายที่ยืนยันความเสียหายดังกล่าว เราใช้กระบวนการตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายในการดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ผ่านช่องทางต่างๆ สุดท้ายกลับเอาผิดกับคนเหล่านี้ได้น้อยมาก มีไม่กี่รายที่สามารถดำเนินคดีได้อย่างจริงจัง เพราะพรรคก้าวไกลไปแตะต้องเครือข่ายของผู้มีอำนาจ จึงยากมากที่คนเหล่านี้จะต้องรับผิดอะไรอย่างเป็นกิจลักษณะ
เมื่อเทียบเคียงกับกรณีของ ช่อ พรรณิการ์ ซึ่งไม่เคยมีประเด็นทุจริต ไม่เคยบริหารงานสร้างความเสียหายต่อประเทศ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เป็นผู้ที่ยืนอยู่ตรงข้ามผู้มีอำนาจ ออกมาแฉขบวนการโกง1MDB กลับถูกตัดสินผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ตัดสิทธิในการลงเลือกตั้งตลอดชีวิต ทั้งๆที่เป็นการกระทำในอดีตก่อนเป็น สส. ก่อนมีกฎหมายจริยธรรม และที่สำคัญคือเป็นการกระทำที่ไม่เคยถูกตัดสินตามประมวลกฎหมายอาญาให้มีความผิดมาก่อนด้วย
เหลือเชื่อ
เหลือเชื่อ
และเหลือเชื่อ
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศเราไปแล้ว น่าผิดหวังเหลือเกิน ผมซึ่งเป็นผู้ร้องคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมตรวจสอบผู้พิพากษาที่ถอนหมายจับซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง แต่ก็ยังไม่ต้องรับผลอะไรที่เป็นรูปธรรม ยังทำหน้าที่เป็นศาลได้เหมือนเดิม
เกิดอะไรขึ้นกับความยุติธรรมของประเทศเรา คนที่อยู่ในกระบวนการแห่งความยุติธรรม จะนิ่งดูดายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ไปอีกเท่าไหร่”
ด่วน! ศาลฎีกาถอนสิทธิ ‘ช่อ พรรณิการ์’ ห้ามลงเลือกตั้งตลอดไป ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
