คู่รัก LGBTQ ทะเลาะกัน ก่อนแทงคู่ขาเสียชีวิต คนร้ายนอนกับศพ 2 วัน 2 คืน สุดท้ายทนกลิ่นไม่ไหว ย้ายศพไปชั้นอื่น ก่อนมีคนพบศพ
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบบ้านพัก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังได้รับรายงานว่าพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณชั้นที่ 4 ของบ้าน โดยสภาพศพผู้ตายนั้นถูกห่อด้วยที่นอน ผ้าขนหนู และผ้าใบคลุม ศพขึ้นอืด เหม็นไปทั่วทั้งชั้น จากการตรวจสภาพศพพบว่า ผู้ตายเป็นเพศชาย ที่บริเวณอกซ้ายและแขนขวา มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 วัน
ตำรวจจึงได้มีการสอบถามเจ้าของบ้าน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นคนรู้จักกับนายชนากร อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนที่อาศัยภายในบ้าน ตำรวจจึงได้ไปเคาะประตูห้องนอนที่อยู่บริเวณชั้นที่ 2 ใกล้บันไดทางขึ้นชั้น 3
ต่อมานายชนากรได้ยอมเปิดประตูห้อง และเมื่อตำรวจจะขอตรวจค้น นายชนากรมีพิรุธพยายามที่จะหลบหนี แต่ทางตำรวจได้มีการควบคุมตัวไว้
ก่อนที่ พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้มีการตรวจร่างกายพบว่า บริเวณหน้าท้องนายชนากร มีบาดแผล จึงได้มีการพูดคุยจนกระทั่งนายชนากรได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่านายบุญมี ไม่ทราบนามสกุลจริง
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ทั้งสองคนเป็นกลุ่มเพศทางเลือก และได้มีการไปมาหาสู่กันได้ระยะหนึ่ง โดยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา นายบุญมี ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถจักรยานยนต์มาหานายชนากรที่บ้าน จากนั้นทั้งสองคนได้มีปากเสียงกันเรื่องความหึงหวง โดยฝ่ายผู้เสียชีวิตได้มีการชี้หน้านายชนากร ผู้ก่อเหตุ จึงสร้างความไม่พอใจและมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนที่นายชนากรจะใช้มีดปลายแหลมที่อยู่ภายในห้องนอน แทงใส่นายบุญมี โดยแทงเข้าที่แขนขวา 1 แผล และที่อกซ้าย 1 แผล พร้อมกับปักมีดคาเอาไว้ที่อกซ้ายของนายบุญมี จนนายบุญมีเสียชีวิต
จากนั้นจึงได้ใช้ผ้าขนหนูและที่นอนห่อศพไว้ภายในห้องและนอนกับศพเป็นเวลา 2 วัน 2 คืน จนกระทั่งวันที่ 3 ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นจึงได้นำศพขึ้นไปที่ชั้นที่ 4 ของบ้าน เพราะไม่มีห้องนอนและคนที่บ้านจะไม่ค่อยขึ้นไป จนกระทั่งในวันนี้ทางพี่ชายและพี่สาวได้กลิ่นเหม็นจึงขึ้นไปดู ก่อนจะพบศพ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายชนากร คนในบ้านหลังนี้ ซึ่งในระหว่างหลังก่อเหตุนายชนากรได้ใช้ชีวิตปกติภายในบ้านโดยไม่มีใครสงสัยแต่อย่างใด จนกระทั่งมีพี่มาพบศพ และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า นายชนากรมีประวัติการถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตำรวจได้มีการตรวจปัสสาวะก่อนที่จะนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
