ถกสนั่นแฮชแท็ก หมอกินคนไข้ ขึ้นเทนด์ทวิตเตอร์หลังสาววีแกนตั้งคำถาม คณะสัตวแพทย์ ขายะเมนูเนื้อกระต่ายเนื้อจระเข้ งานเกษตรแฟร์ ชาวเน็ตโร่อธิบายเดือด เนื้อทุกอย่างสั่งตรงจากบริษัทที่ผลิตเพื่อการบริโภค
เชื่อว่าวันนี้ (3 ก.พ.66) หลายคนที่ไถทวิตเตอร์จะต้องแปลกใจปนสงสัยหนักกับแฮชแท็ก #หมอกินคนไข้ ที่พุ่งขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งต่อมาทราบว่า ความจริงคือ การออกมาเรียกร้องจากสาววีแกนรายหนึ่ง
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในทวิตเตอร์เมื่อผู้ใช้รายหนึ่ง โพสต์ระบุว่า “#เกษตรแฟร์ #ทีมมก ปีนี้ช่วงวันที่ 4-11 ก.พ. จะมีเมนูเนื้อกระต่ายกับเนื้อจระเข้ ขายโดยนิสิตสัตวแพทย์ค่ะ ช่วยกันติดแท็กให้ข่าวกระจายนะคะ ไม่ควรมีสัตว์ตัวไหนต้องตายเพราะบุคลกรทางการสัตวแพทย์เอามาทำขายเป็นอาหารเลยค่ะ #หมอกินคนไข้ อยากให้ผู้จัดนำไปพิจารณาด้วยค่ะ”
ต่อมาทวีตนี้กลายเป็นไวรัล ยอดรีทวีตหลักหมื่นจนพุ่งขึ้นอันดับ 1 อันเป็นผลมาจากเกิดข้อถกเถียงกันบนโซเชียล สาเหตุจากความเห็นที่โต้แย้งเจ้าของทวิตว่า เนื้อสัตว์ที่สั่งตรงจากฟาร์มผลิตเพื่อการบริโภค ไม่มีหมอคนไหน เอาเคสคนไข้หรืออาจารย์ใหญ่มากิน ฉะนั้นแฮชแท็กหมอกินคนไข้จึงไม่ถูกต้องในแง่การตีความหมาย
อย่างไรก็ตาม ไม่นานเจ้าของเรื่องก็ยังคงเข้ามาทวีตยืนยันเจตนารมต์ของเธอว่า ไม่ว่าอย่างไรในฐานะผู้บริบาลสัตว์ก็ไม่ควรจะส่งเสริมการฆ่าสัตว์เป็นอาหาร
“ก็ใช่นะ เรื่องกินคนไข้ เรื่องเลี้ยงสัตว์มาเป็นอาหารคนก็ทำมาตั้งนานละ แต่มันควรทำหรอ ยิ่งในฐานะสัตวแพทย์ ถึงการห้ามฆ่าสัตว์เพื่ออาหาร 100% มันยังทำไม่ได้ แต่ในฐานะผู้บริบาลสัตว์ก็ไม่ควรจะมาส่งเสริมการฆ่าสัตว์เป็นอาหารอะ” ข้อความตอบกลับซึ่งชจากบัญชีทวิตเตอร์เจ้าของเรื่อง
ถึงตอนนี้ #หมอกินคนไข้ ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่ผู้คนเข้ามาแสดงความเห็นกันหลากหลาย อาทิ “แมสเลยทวิตนี้ เป็นสัตวแพทย์เขาย่อมเข้าใจอยู่แล้วล่ะว่าสัตว์เลี้ยง กับปศุสัตว์เพื่อบริโภคมันเป็นยังไง ทำไมยึดติดว่าเป็นหมอสัตว์ต้องรักษาสัตว์เท่านั้นห้ามมาทำอาหารเกี่ยวกับเนื้อในงานเกษตรแฟร์ด้วย เขาแค่ออกซุ้มเฉยๆเป็นเมนูอาหารด้วยกระต่ายจรเข้เท่านั้น คนที่ไม่เคยก็จะว่าแปลกแค่นั้น”
“คุณคะ เข้าใจอะไรผิดรึป่าว? การที่จัดงานแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกคนไปสั่งฆ่าสัตว์มาเพื่อนำมาประกอบอาหารขายนะคะ เนื้อสัตว์ที่นำมาใช้ก็คือเนื้อสัตว์ที่ได้มาจากตลาดทั่วไป การที่คุณพูดแบบนี้มันจะเท่ากับว่าคนเรากินเนื้อสัตว์ไม่ได้นะ”
ขณะที่ข้อความอธิบายข้อโต้แย้งสุดท้ายจากเจ้าของเรื่องได้ทวิตชี้แจงไว้ดังนี้ “จะฆ่าหรือไม่ฆ่าเองก็คือการสนับสนุนการฆ่าสัตว์เพื่อมาบริโภคเป็นอาหารแล้ว แทบไม่ต่างอะไรกัน แทนที่จะหาวิธีให้สัตว์ได้ประโยชน์ นี่กลายเป็นเอาสัตว์มาหาผลประโยชน์แทน”
