ข่าวข่าวภูมิภาค

ประวัติ วสันต์ โพธิพิมพานนท์ เจ้าของอาณาจักรเบนซ์ทองหล่อ นักธุรกิจสู้ชีวิต

ประวัติ วสันต์ โพธิพิมพานนท์ เจ้าของอาณาจักรเบนซ์ทองหล่อ นักธุรกิจสู้ชีวิตฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ตั้งแต่หนี้สินยันวิฤกติต้มยำกุ้ง

จากกรณีที่มีการแจ้งข่าวการเสียชีวิต วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ หรือนามสกุลเดิม โพธิพิมพานนท์ นักธุรกิจเบนซ์ทองหล่อ กรุ๊ป หนึ่งในดีลเลอร์เบนซ์รายใหญ่ของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้ก่อตั้งตลาดนัดเคยรวย ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 76 ปี หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาเป็นระยะเวลานาน

Advertisements

สำหรับวันนี้สำนักข่าว TheThaiger ขอย้อนรอยประวัติ วสันต์ โพธิพิมพานนท์ หรือ วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ นักธุรกิจมากความสามารถ ที่ต่อสู้และฝ่าฟันผ่านพ้นวิกฤติต้มยำกุ้ม จนกลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย

วสันต์ โพธิพิมพานนท์ หรือ สันต์ เกิดในครอบครัวคนจีนและเป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว มีพี่น้องรวม 8 คน พ่อกับแม่ประกอบอาชีพค้าขายทุกอย่าง ล่องเรือค้าขายอยู่ที่กาญจนบุรี แม้ฐานะจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่อดอยาก เนื่องจากที่บ้านมียุ้งข้าว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ปลูกผัก อย่างไรก็ดีแม้จะไม่มีปัญหาเรื่องกินอยู่ แต่ทางบ้านไม่สามารถส่งลูกทุกคนไปเรียนสูงๆได้

วสันต์ เดินทางเข้ามาในกรุงเทพ และศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอำนวยศิลป์เพียงคนเดียว แต่สอบเข้าไม่ติด ทำให้ต้องเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเอกชน ซึ่งค่าเทอมสูงมาก แม้ว่าจะผิดหวัง แต่ก็เป็นโอกาสให้ วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ ได้โอกาสรับจ้างขายที่ดินจัดสรร ตารางวาละ 1,000 บาท แถวซอยโชคชัย 4 เพื่อแบ่งเบาที่บ้าน และเป็นก้าวแรกสู่วงการนักขาย

เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยเขาก็ตัดสินใจไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ไม่ได้ไปได้เลย เพราะสอบโทเฟลไม่ผ่าน แต่ก็ยังตัดสินใจเสี่ยงดวงไปเป็นโรบินฮู้ดอยู่อเมริกา ชีวิตไม่ได้สุขสบายและต้องไปเป็นแรงงานแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล แถวรัฐนิวออร์ลีนส์

Advertisements

แต่ในที่สุด วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ ก็ประสบความสำเร็จในการศึกษาที่สหรัฐฯหลังจากที่เขาได้เงินจากการทำงาน เขาก็นำเงินก้อนนั้นไปใช้ในการตามล่าใบปริญญา จนสำเร็จการศึกษาต่อปริญญาโทในด้านบริหารธุรกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ชีวิตของ วสันต์ โพธิพิมพานนท์ เข้าสู่จุดเปลี่ยนอีกครั้ง หลังจากจดหมายที่เดินทางข้ามมหาสมุทร ข้ามทวีปของพี่ชายส่งมาหาเขาในระหว่างที่ วสันต์ อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นจดหมายของพี่ชายที่อยากให้มาช่วยวางแผนบัญชี เพราะก่อนหน้านี้พี่ลงหุ้นกับเพื่อน ซื้อรถเก่ามาซ่อมขาย แต่ทำแล้วมีแต่หนี้สิน

วสันต์ จึงบินกลับไปเทยไปช่วยวางระบบให้ ช่วยแก้ปัญหา ดูเรื่องดอกเบี้ย ไฟแนนซ์ ทำเรื่องประกันภัยรถยนต์ วางระบบการผ่อนชำระค่างวด ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ทว่ามีปัญหาใหม่เข้ามาแทน นั่นคือรถเก่าดีๆเริ่มหายาก ทำต้องมองหารถใหม่ จึงตัดสินใจเดินเข้าขอเป็นดีลเลอร์ขายรถใหม่ แต่ไม่มีโชว์รูมรถ มีแต่เพิงหมาแหงนเป็นสังกะสีเช่าเขาอยู่ แต่มีที่ขายมีโต๊ะตัวหนึ่งพร้อมห้องแอร์ เริ่มต้นจากได้รถยี่ห้อฮีโน่มาขายก่อน ยอดขายถือว่าดีมาก จากนั้นก็เริ่มมาขายรถโตโยต้า

วันหนึ่งเพื่อนเอารถเบนซ์มาขาย บอกให้ช่วยซื้อ เพราะผ่อนต่อไม่ไหว ได้ลองขับแล้วชอบ รู้สึกหลงรักในรถสัญชาติเยอรมันคันนี้ ความรู้สึกต่างจากรถญี่ปุ่นมาก ตอนแรกๆ คิดจะซื้อแล้วขายทิ้ง และการพานพบกับรถเบนซ์คันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ เบนซ์ทองหล่อ

เพราะความหลงไหลรถสัญชาติเยอรมันคันนี้ ทำให้เขาพบกับ จัดการขายเบนซ์แนะนำให้เอารถไปลองขายดู ก็เลยเบิกเงินในธนาคารทั้งหมดไปซื้อเบนซ์มาขายที่เมืองกาญจน์ จอดอยู่ 3 เดือนยังขายไม่ออก แต่พอเริ่มมีคนรู้ว่า วสันต์ ขายเบนซ์ก็เริ่มมีคนติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ

วสันต์ ขายในราคาต้าทุนไม่เอากำไร และขายได้เรื่อยๆ ทางทางสำนักงานใหญ่เค้าเห็นว่าเราขายรถได้ สักพักก็เริ่มให้เอเยนต์ต่างจังหวัดช่วยขายโดยไม่บวกราคาต้นทุนเพิ่ม ขายได้เท่าไหร่แบ่งกำไรคนล่ะครึ่ง กลายเป็นทฤษฎี 50/50 ที่ทำให้ประสบความสำเร็จมาตลอด

จากเรื่องชีวิตของวสันต์ทำให้เขาได้ทำตลาดนัด “ตลาดนัดคนเคยรวย” เปิดโอกาสให้คนนำของเคยรักเคยหวงมาขาย เพื่อนำเงินไปต่อลมหายใจธุรจกิจตัวเอง เป็นการช่วยเหลือคนร่วมชะตากรรมเดียวกัน

ประวัติ วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ นั้นแสดงให้เห็นว่าเขาใชเวลาต่อสู้มา 15 ปี แต่ความใจสู้และความมุ่งมั่นของเขาทำให้เขาสามารถพิชิตหนี้ได้ทั้งหมด และทำให้อาณาจักรเบนซ์ของวสันต์ยั่งยืนมาถึงทุกวันนี้

วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 15.20 น. หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยมะเร็งตับ ด้วยวัย 76 ปี

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button