มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ อาร์เซน่อล รู้สึกข้อใจ และไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของ VAR หลังโดนริบประตูขึ้นนำในครึ่งแรก จนทำให้ทีมบุกไปพ่าย แมนยู 1-3 เมื่อคืนนี้
เมื่อคืนที่ผ่านมา “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงที่ชนะมา 5 เกมติดต่อกับ มีคิวต้องบุกไปเยือน แมนยู ที่ในช่วงหลังฟอร์มแรงไม่แพ้กัน ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทัพปีศาจแดง ที่เปิดบ้านไล่ถล่มอาร์เซน่อลไป 3-1 จากการขิง อันโตนี่ และอีกสองประตูจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วนทีมเยือนได้ประตูปลอบใจจาก บูกาโย่ ซาก้า
อย่างไรก็ตามช้อตที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเกมนี้คงหนีไม่พ้นจังหวะในครึ่งแรก ที่ทัพปืนใหญ่ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้แล้วจากการยิงของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ก่อนจะมีการเช็ค VAR ซึ่งปรากฎภาพของ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ทำฟาวล์ คริสเตียน อีริคเซ่น บริเวณกลางสถาน สุดท้าย พอล เทียร์นี่ย์ ผู้ตัดสินในเกมนี้จะริบประตูดังกล่าวคืน
https://twitter.com/footballreq/status/1566452254470717441
หลังจบเกม กุนซือชาวสเปนของทีมเยือนยอมรับว่าตัวเขาไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ของกรรมการผู้ชี้ขาดในเกมนี้ พร้อมมองว่าการตัดสินของ VAR ไม่มีมาตรฐานที่ตายตัว
“มันขาดมาตรฐาน จังหวะนั้นมันเบามาก! สัปดาห์ก่อน แอสตัน วิลลา ได้ประตูทั้งที่มีการทำฟาวล์ อารอน แรมส์เดล แต่พวกเขาบอกมันเบา มันไม่ใช่การฟาวล์”
“จากนั้นก็มีจังหวะที่ บูกาโย ซาก้า ควรได้จุดโทษ (ปะทะกับ ไทรอน มิงส์) แต่มันก็เบาไปและไม่ใช่จุดโทษ พอมาวันนี้มันดันเป็นการทำฟาวล์”
“มีการสกัดที่รุนแรงหลายจังหวะและไม่มีใบเหลือง เพราะมาตฐานต่ำ เพราะมันเป็นเกมใหญ่ มันยากจะยอมรับจริงๆ”
Read every word from @m8arteta’s post-match press conference 🎙
❤️ Pride in our performance
📺 Martinelli’s disallowed goal
💪 Defensive lessons to learn#MUNARS— Arsenal (@Arsenal) September 4, 2022
เกมต่อของ อาร์เซน่อล จะลงเล่นในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เกมแรก พบกับ เอฟซี ซูริค ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน เวลา 23.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
