ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล หวังล้างตาหลังพ่าย ลิเวอร์พูล ในเกมคาราบาว คัพ นัดชิงเมื่อ กุมภาฯที่ผ่านมา และยังเป็นการลุ้นถ้วยสมัยที่ 9 ของรายการนี้ หลังได้แค่รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว นัดจัดผู้เล่นเต็มสูบ รอเช็คแค่ มาเตโอ โควาซิช ส่วนฝั่ง หงส์แดง ลิเวอร์พูล พร้อมคว้าถ้วยที่ 2 และอยู่บนเส้นทางลุ้นสี่แชมป์ นัดนี้พร้อมจัดเต็มนำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล่าตาข่ายเพื่อแชมป์สมัยที่ 8 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ beIN Sports 1 ยิงสด เวลา 22.45 น.
เกร็ดน่ารู้ก่อนเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง เชลซี พบ ลิเวอร์พูล คืนนี้ 14 พฤษภาคม 2565
หงส์ขาด ฟาบินโญ่
- ฟาบินโญ่ กองกลางคนสำคัญที่มีอาการเจ็บแฮมสตริงจากเกมล่าสุด แถมพลาดลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดสุดท้ายแน่นอนแล้ว ต้องไปลุ้นว่านัดชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะดวลกับ เรอัล มาดริด ปลายเดือนนี้จะฟิตทันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นปัญหาสำคัญเนื่องจาก มิดฟิลด์บราซิเลียน เป็นผู้เล่นสำคัญของทีม และคาดว่าเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะใช้บริการของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลงเล่นร่วมกับ ติอาโก้ อัลกันทาร่า และ นาบี เกอิต้า
ซาล่าห์ ดิอาซ ตัวอันตราย
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงเป็นนักเตะที่ต้องจับตามอง เจ้าตัวนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ก็ตาม โดยตะบันในลีก 22 ประตู และซัดรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ 30 ลูก ขณะที่ หลุยส์ ดิอ๊าซ ก็ปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นตัวจริงของทีมเรียบร้อยแล้ว โดยปีกโคลอมเบีย สามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ให้เพื่อน และเป็นตัวพลิกเกมให้กับทีมตลอดในระยะหลัง
เชลซีพร้อมล้างแค้น
- ทัพสิงโตน้ำเงินคราม หมายมั่นจะล้างตาในนัดนี้ให้ได้ เนื่องจากพวกเขาเพิ่งจะพ่ายดวลจุดโทษต่อ หงส์แดง ชวดแชมป์ คาราบาว คัพ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนั้นไม่ได้เล่นเป็นรองเลย จึงเชื่อว่าเกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล จะขนทัพที่ดีที่สุดลงเล่น และคว้าแชมป์ส่งท้ายฤดูกาลนี้ให้จนได้
เกร็ดอื่นๆที่น่าสนใจ
- โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเชลซี พาทีมเข้าชิง หลังชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 ในรอบตัดเชือก ก่อนอัดลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 4 เกม
- เชลซี ชนะในรายการนี้มาแล้ว 14 จาก 14 นัดหลังที่ลงเล่น (เอฟเอ คัพ)
- เชลซี เสมอกับ ลิเวอร์พูลใน 3 นัดหลังที่เจอกัน (ทุกรายการ)
- เชลซี ยิงประตูคู่แข่งอย่างน้อยเกมละ 2 ประตู ใน 3 นัดหลัง (เอฟเอ คัพ)
- เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมเข้าชิง หลังเชือด แมนฯ ซิตี้ หวุดหวิด 3-2 ในรอบรองฯ ก่อนเบียดชนะแอสตัน วิลล่า 2-1 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 15 เกมรวมทุกรายการ
- ลิเวอร์พูล ยิงประตูคู่แข่งอย่างน้อยเกมละ 2 ประตู ใน 6 จาก 7 นัดหลัง (เอฟเอ คัพ)
