เปิดตัว Google Pixel 6 Pro สามาร์ทโฟนเรือธง มาพร้อมชิป Tensor ออปชั่นเพียบ เทพขึ้นกว่าเดิม!!
เปิดตัว Google Pixel 6 Pro สามาร์ทโฟนเรือธง มาพร้อมชิป Tensor ผสานการทำงานคู่กับกล้องหลังขั้นเทพ ความละเอียดสูงสุด 50 MP และเสริมระยะให้ยาวไกลคมชัดด้วยเลนส์ Telephoto ความละเอียด 48 MP
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา Google ได้ประกาศเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่ ได้แก่ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตแบบคัสตอม Google Tensor (5 นาโนเมตร) และฟีเจอร์กล้องที่ขนมาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม รวมไปถึงการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียง พิมพ์ หรือถ่ายภาพข้อความ ก็ทำได้สะดวกรวดเร็ว มอบความยืดหยุ่นในการใช้งานเป็นอย่างดี โดยในบทความนี้จะเป็นการแนะนำรุ่น Google Pixel 6 Pro ซึ่งมีดีไซน์และสเปกที่ใกล้เคียงกับตัว Pixel 6 แต่จะแตกต่างตรงที่หน้าจอแสดงผล และลูกเล่นของโหมดถ่ายภาพ ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลยครับ
| เปิดตัว Pixel 6 Pro
ชิป Tensor สุดล้ำ
พร้อมระบบ Intelligent Machine Learning
ความว้าวของชิปตัวนี้ที่นอกจากจะเป็นรุ่นแรกของ Google ก็ยังมาพร้อมกับระบบ Intelligent Machine Learning ในการเรียนรู้และช่วยเหลือเราในการใช้งานอย่างเช่น การแปลภาษาจากข้อความแบบเรียลไทม์ หรือการใช้กล้องส่องป้ายเพื่อแปลภาษาแม้จะไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตอยู่ก็ตาม
นอกจากนี้ยังประมวลผลได้รวดเร็วกว่ารุ่น Pixel 5 สูงสุด 80% ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดแอปฯ หรือเกม ที่ตอบสนองได้อย่างฉับไว โดยยังคงเซฟพลังงานแบตเตอรี่ได้ดี ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างของชิป Tensor คือการเคลือบด้วยเลเยอร์แบบพิเศษหลายชั้น เพื่อป้องกันการถูกแฮกได้ดียิ่งขึ้น
หน้าจอแสดงผล
มาพร้อมกับหน้าจอพาเนล AMOLED แบบ LTOP ขนาด 6.71 นิ้ว ความชัดระดับ QHD+ (1440 x 3120 พิกเซล, 512 ppi) รองรับอัตรารีเฟรชเรท สูงสุด 120 Hz และสัดส่วนหน้าจอ 19.5 : 9 ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass Victus เพื่อการป้องกันรอยขีดข่วน
แบตเตอรี่ประสิทธิภาพมาใหม่
มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ขนาด 5003 mAh รองรับระบบชาร์จไว 30 วัตต์, การชาร์จไวแบบไร้สาย 23 วัตต์ และการเปลี่ยนตัวเองเป็นพาวเวอร์แบงค์พกพาด้วยระบบ Reverse wireless charging ให้กับอุปกรณ์อื่น โดยจะมีประสิทธิภาพเหมือนกับ Pixel 6 ซึ่งสามารถชาร์จได้ 50% ด้วยระยะเวลาเพียง 30 นาที พร้อมกับโหมดการจัดสรรพลังงาน ลำดับความสำคัญแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย เพื่อยืดอายุการใช้งานระหว่างวัน
| ฟีเจอร์ใหม่ไฉไลกว่าเดิม
การแปลภาษาแบบอัตโนมัติ
จัดว่าเป็นระบบที่เอื้อให้กับตัว Pixel สุด ๆ (เพราะเดิมทีเจ้านี้เขาก็มีทำ Google Translate อยู่แล้ว) โดยเราสามารถแปลข้อความแบบเรียลไทม์ได้อัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องสลับไปใช้แอปฯ อื่นแปลให้เสียเวลา และการใช้กล้องแปลภาษาได้เลยทันที ไม่ว่าจะเป็นป้ายเส้นทางรถไฟ หรือแผ่นโปสเตอร์โฆษณาตามริมทาง เรียกว่าฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับสายเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว สุดท้ายคือการแปลภาษาผ่านข้อความเสียงโดยตรง ซึ่งนับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
Speech to text
หรือก็คือการแปลเสียงพูดเป็นข้อความตัวอักษร ซึ่งประมวลผลด้วยชิป Tensor อย่างชาญฉลาด พร้อมประสิทธิภาพความเร็วที่มากกว่าการพิมพ์ เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในการแก้คำผิด หรือเสนอคำที่เหมาะสมต่อบทสนทนานั้น ๆ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ หรือไม่ได้มองทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้
ช่วยเหลือเมื่อต้องตอบสายอัตโนมัติ
เคยเป็นไหมครับ ที่เวลาเราจะโทรไปติดต่อธนาคารหรือหน่วยงานข้าราชการ ก็จะต้องพบกับระบบตอบโต้เสียงอัตโนมัติ ซึ่งบางครั้งกว่าจะติดต่อไปยังจุดหมายที่เราต้องการได้ ก็ต้องกดเบอร์โน้นเบอร์นี้เป็นสิบ ๆ หรือฟังออปชั่น “เมนู” ของการสนทนาจนถึงเลขสุดท้าย แต่ครั้นก็ดันลืมเบอร์แรกแล้วก็ต้องกดฟังใหม่จนเสียเวลา ทาง Google Pixel 6 Pro เอง ก็เลยนำเสนอฟีเจอร์ที่จะมาแก้ปัญหาเหล่านี้
นั่นก็คือการแสดงหน้าจอบันทึกออปชั่นของการสนทนาแบบอัตโนมัติ เช่น กด “1” เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่, กด “2” เพื่อฟังซ้ำ หรือรายละเอียดโปรโมชันระหว่างรอสาย ซึ่งตรงข้อความเหล่านี้เองจะถูกบันทึกบนหน้าจอสนทนา Pixel 6 Pro และเราสามารถกดตัวเลขออปชั่นเหล่านั้นได้เลย โดยไม่ต้องกลับไปที่แป้นตัวเลขให้วุ่นวาย
| กล้องจบตัวเทพ
Pixel 6 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยเลนส์ระยะต่าง ๆ ดังนี้
- กล้องหลัก Wide
– ความละเอียดสูงสุด 50 MP f/1.9
– เซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ 1/1.3 นิ้ว
(จับแสงได้มากกว่ากล้องของ Pixel 5 ถึง 2.5 เท่า) - กล้องรอง Telephoto
– ความละเอียดสูงสุด 48 MP f/3.5
– 4x optical zoom - กล้องรอง Ultrawide
– ความละเอียดสูงสุด 12 MP f/2.2 - กล้องหน้าเซลฟี่ Wide
– ความละเอียด 11.1 MP f/2.2
รองรับการบันทึกวิดีโอในระดับ 4K อัตราเฟรมเรทที่ 30 / 60fps, 1080p อัตราเฟรมเรท 30 / 60 / 120 /240fps พร้อมระบบกันสั่น OIS ส่วนในกล้องหน้าจะทำได้สูงสุด 4K 30 / 60fps, 1080p อัตราเฟรมเรท 30fps
ฟีเจอร์ถ่ายภาพ
นับว่าเป็นผลพลอยได้มาจากการใช้ชิป Tensor เลยทำให้ตัวกล้องสามารถประมวลผลของภาพถ่าย ผสานกับคุณภาพความชัด พร้อมรองรับกับฟีเจอร์เด็ด ๆ เพียบ
Magic Eraser
หมดปัญหาคนเต็มฉากหลัง หรือรถยนต์ที่มาจอดบดบังวิวทัศนียภาพ ด้วยฟีเจอร์ Magic Eraser ที่เสมือนนำโฟโต้ช็อปมาไว้ในกล้องเลย ซึ่งมีความสามารถในการลบ คน หรือ วัตถุสิ่งของ ที่ไม่ต้องการพร้อมแทนที่ด้วยฉากหลังแบบเนียน ๆ
Face Unblur
จับภาพใบหน้าที่มีการเคลื่อนไหวหรือแม้กระทั่งอยู่ในบริเวณแสงน้อย ได้อย่างคมชัดในทุกอิริยาบถ ด้วยชิปคู่บุญอย่าง Tensor ทำให้ไม่พลาดช็อตสำคัญ พร้อมกับได้ภาพที่สวยงามอีกด้วย เรียกว่านำไปใช่ถ่ายในงานคอนเสิร์ต หรือกีฬาต่าง ๆ ได้อย่างดีทีเดียว
Motion Mode
ใครที่เคยใช้กล้อง DSLR ถ่ายภาพรถวิ่ง หรือวัตถุอะไรก็ตามที่มีความรวดเร็วจะเข้าใจดีว่า จำเป็นต้องใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำแล้วแพลนกล้องให้สอดคล้องกับทิศทางของวัตถุที่เราจะถ่าย ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ แล้วบนมือถือ Pixel 6 / Pro
วิดีโอ HDRnet
สามารถถ่ายวิดีโอที่ระดับความชัดสูงสุด 4K 60fps (498 ล้าน พิกเซล / วินาที) พร้อมโหมด HDR+ ปรับวิดีโอให้คมชัดด้วยการประมวลผลจากชิป Tensor ได้ทันที
| สเปกเครื่อง Pixel 6 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง
– ยาว : 13.9 มิลลิเมตร
– กว้าง : 75.9 มิลลิเมตร
– หนา : 8.9 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก : 210 กรัม - หน้าจอ
– AMOLED, LTOP
– QHD+
– 120 Hz
– หน้าจอ 6.71 นิ้ว
– 1440 x 3120 พิกเซล - ประมวลผล
– ชิปเซ็ต : Google Tensor (5 nm)
– ซีพียู : Octa-core
– GPU : Mali-G78 MP20 - ระบบปฏิบัติการ OS
– Android 12 - หน่วยความจำ
– RAM : 12GB
– ROM : 128 / 256 / 512GB - กล้องหลัก Wide
– ความละเอียดสูงสุด 50 MP f/1.9
– เซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ 1/1.3 นิ้ว
(จับแสงได้มากกว่ากล้องของ Pixel 5 ถึง 2.5 เท่า) - กล้องรอง Telephoto
– ความละเอียดสูงสุด 48 MP f/3.5
– 4x optical zoom - กล้องรอง Ultrawide
– ความละเอียดสูงสุด 12 MP f/2.2 - กล้องหน้าเซลฟี่ Wide
– ความละเอียด 11.1 MP f/2.2 - แบตเตอรี่
– 5003 mAh
– Fast charging 30 W
– Fast wireless charging 23 W
– Reverse wireless charging - รองรับเครือข่าย
– 5G - พอร์ต
– USB Type-C 3.1 - สีเครื่อง
– Cloudy White
– Sorta Sunny
– Stormy Black
ราคาและการวางจำหน่าย Pixel 6 Pro
Pixel 6 Pro เปิดตัวให้ Pre-order แล้วบนหน้าเว็บไซต์ Google โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 899 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 30,000 บาท และจะจัดจำหน่ายจริงในวันที่ 28 ต.ค. เป็นต้นไป สำหรับประเทศไทยก็ต้องรอดูกันอีกทีว่าจะมีร้านค้าหรือเครือข่ายไหนนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการครับ ?
- รีวิว Vivo Y72 5G กล้องหลังสามเลนส์ คมชัดทุกช็อต
- vivo Y52 5G ราคาสุดประหยัด ได้ฟีเจอร์จัดเต็ม
- รีวิว สเปค Vivo Y20s [G] รีวิว แบตถึก ชาร์จไว สะใจเวอร์
- ได้ฤกษ์ เปิดตัว เช็กสเปก Pixel 6 สมาร์ทโฟนจาก Google พร้อมชิปใหม่ Tensor
- คุ้มจริงไม่จกตา! รีวิว หลังใช้งาน Infinix HOT 11S มือถือสายประหยัด แต่สเปกเกินเบอร์มาก
อ้างอิงจาก : Gsmarena Google Made by Google Engadget