รวมมาแล้ว 5 หูฟังไร้สาย In-Ear น่าซื้อปี 2021 ตัดเสียงรบกวนดีเยี่ยม
รวมมาแล้ว 5 หูฟังไร้สาย In-Ear ที่น่าซื้อในปี 2021 เสียเงินทั้งทีต้องคิดให้รอบคอบ สเปกต้องคุ้มค่า หูฟังรุ่นไหนดี มีฟังก์ชันตัดเสียง ไปดูเลย
สำหรับใครที่กำลังตามหาหูฟัง In-Ear มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนดี ๆ สักตัว แต่นั่งคิด นอนคิดยังไงก็ยังไม่รู้ว่ารุ่นไหนถึงจะจ่ายแล้วคุ้ม ผ่านไปกี่ 7.7 8.8 9.9 ก็ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่นั่น มาดูกันได้เลย รวมมาแล้ว 5 หูฟังไร้สาย In-Ear คุณภาพดีเชื่อใจได้ หูฟังคุณภาพจาก 5 แบรนด์ที่คัดสรรมาให้แล้วทั้งความคุ้มค่าและฟังก์ชันที่มี ใครที่ซีเรียสเรื่องการฟังเพลงรับรองว่าได้ไปไม่มีผิดหวังเลย เพราะทุกตัวที่อยู่ในลิสต์คัดมาแล้วว่าเป็นรุ่นที่มี Active Noise Cancelling หรือ ANC หัวใจสำคัญเพื่อประสบการณ์การฟังที่เต็มร้อยของคุณ
1MORE ComfoBuds Pro
เริ่มกันที่หูฟังน้องเล็กราคาประหยัดที่สุดในบรรดาหูฟัง In-Ear กับ 1MORE ComfoBuds Pro หูฟังไร้สายที่มีระบบตัดเสียงรบกวนได้อัตโนมัติ แถมยังปรับได้ถึง 5 โหมด Strong ANC ตัดเสียงได้ถึง 35dB โหมด Mild ANC สำหรับตัดเสียงในสภาพแวดล้อมที่ไม่คึกคักมาก โหมด Wind Noise Resistant หรือ WNR ตัดเสียงลม โหมด Pass-through เปิดให้เสียงของสภาพแวดล้อมผ่านเข้ามาได้ และโหมดปกติ
เรื่องของเสียงที่ออกมาก็ทำได้คุณภาพดี เสียงเบส เสียงเบา ปรับได้ตามความชอบ ควบคุมการใช้งานได้ง่ายเพียงแตะเบา ๆ ที่หูฟังก็เลือกหยุด-เล่น รับ-วางสายได้แล้ว ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 28 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และ 20 ชั่วโมงเมื่อเปิดใช้ ANC ความทนทานก็มี ใส่วิ่งฝ่าฝนปรอย ๆ หรือวิ่งจ็อกกิ้งได้สบาย เคสทรงวงรีน่ารัก พกง่าย แถมได้หูฟังในสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย พร้อมจุก 4 ขนาดให้คุณเลือกใช้ตามสรีระของตัวเอง
ราคา: 2,590 บาท
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ดีได้อีก รีวิว 1MORE ComfoBuds Pro หูฟังไร้สายคุณภาพเหนือเมฆ
1MORE ComfoBuds Pro
สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
Huawei FreeBuds Pro
ต่อกันที่หูฟังจาก Huawei ราคาเขยิบขึ้นมาอีกนิด มีจุกหูฟังมาให้ 3 ขนาดกับ Huawei FreeBuds Pro ที่มีเทคโนโลยี Hybrid Active Noise Cancelling คอยจับเสียงรบกวน ไดรเวอร์ไดนามิกที่สร้างสัญญาณป้องกันเสียงรบกวนและเอฟเฟกต์ตัดเสียงรบกวนที่ทำได้สูงถึง 40dB พร้อมโหมดการตัดเสียงรบกวน 3 โหมดเพื่อให้คุณใช้งานในสถานการณ์ที่ต่างกัน Ultra Mode สำหรับใช้ในที่ที่เสียงดังมาก Cozy Mode สำหรับตัดเสียงรอบข้างเล็ก ๆ น้อย ๆ และโหมดทั่วไปสำหรับสถานที่ที่เสียงดังในระดับนึง รวมถึงโหมดการรับรู้ ใช้งานเมื่อต้องการฟังเสียงภายนอก
การควบคุมก็แสนง่ายใช้เพียงการกด ปัด บีบ ก็สามารถควบคุมระดับเสียง การรับสายโทรเข้าและการกดเล่น-หยุดเพลงได้แล้ว ขนาดของแบตเตอรี่ที่ให้มาก็ไม่ใช่เล่น ๆ สามารถใช้งานได้นานสูงสุดที่ 36 ชั่วโมงเลยทีเดียว เชื่อมต่อได้มากกว่าหนึ่งเครื่องและเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่สมาร์ตโฟน แท็บเล็ตไปจนถึงสมาร์ตวอทช์ และยังมีฟีเจอร์บอกตำแหน่งหูฟังอย่าง Find My Earphones อีกด้วย
ราคา: 3,790 บาท
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รีวิว Huawei FreeBuds Pro หูฟังที่จะทำให้คุณไม่รู้จักคำว่า “เสียงรบกวน”
Huawei FreeBuds Pro
สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
Samsung galaxy buds 2
แบรนด์ที่ไว้ใจได้อย่าง Samsung ก็เข้ามาอยู่ในลิสต์อย่างไม่ผิดคาดนัก เริ่มจากดีไซน์แบบ In-Ear และยังออกแบบให้อุปกรณ์มีส่วนที่ยื่นออกมาจากหูน้อย ลดเสียงรบกวนจากลม กันน้ำมาตรฐาน IPX2 ใส่ออกกำลังกายได้สบาย พร้อมระบบ ANC ที่ช่วยตัดเสียงที่เราไม่ต้องการฟังออกไปและ Transparency Mode โหมดสำหรับฟังเสียงภายนอกถ้าคุณต้องการ ความพิเศษอยู่ตรงที่เจ้า Samsung galaxy buds 2 นั้นมี Voice Pickup Unit หรือ VPU เมื่อคุณส่งเสียงพูดออกไปในขณะเปิดใช้งาน ANC หูฟังก็จะเปลี่ยนเข้าสู่ Transparency Mode ให้อัตโนมัติ
การออกแบบตัวหูฟังก็เบาสบายเหมือนไม่ได้สวม แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาว หากปิดโหมด ANC สามารถฟังเพลงได้นานถึง 7.5 ชั่วโมง และนานสุด 29 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ ยิ่งถ้าคุณเป็นครอบครัว Galaxy อยู่แล้วก็ยิ่งสบาย สลับเครื่องมือที่ใช้งานหูฟังง่ายเว่อร์ด้วย Auto Switch หรือต่อให้ไม่ได้ใช้คุณก็ควรลองเปิดใจให้หูฟังรุ่นนี้ดู แล้วจะพบว่ามันดีคุ้มราคาแน่นอน
ราคา: 3,990 บาท
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ รีวิว Samsung galaxy buds 2 หูฟังไร้สาย เครื่องจิ๋วแต่แจ๋ว
Samsung galaxy buds 2
สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
Sony WF-1000XM4
กระโดดมาถึงหูฟังราคาแรงขึ้นมาอีกนิดกับ Sony WF-1000XM4 หูฟัง In-Ear ที่ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของใบหูมากที่สุด เพื่อความแนบชิดติดไม่หลุดง่าย กันน้ำระดับ IPX4 ใช้ใส่ออกกำลังกายได้ เจอน้ำนิดหน่อยก็ไม่ต้องกังวล เปิดใช้งาน Noise Cancelling ได้ ไม่ถูกเสียงจากภายนอกเข้าไปรบกวนการฟัง พร้อมระบบเสียงอันเลื่องลือ Hi-Res Audio และ 360 Reality Audio ให้เสียงสมจริงมาโอบล้อมตัวคุณไว้ราวกับมีลำโพงคุณภาพสูงติดตัวไปด้วยทุกที่
แบตเตอรี่ทนทาน ใช้ได้นาน 24 ชั่วโมง เสียงสนทนาก็เริ่ดด้วยไมโครโฟน Beamforming ใช้ปลายนิ้วควบคุมการใช้งานของตัวหูฟังได้โดยตรง จะเปลี่ยนโหมด Noise Cancelling ไปเป็นโหมดฟังเสียงรอบข้าง หรือกดข้ามเพลงก็ได้ และยังปรับเปลี่ยนการตั้งค่าด้วยตัวเองได้ที่แอปพลิเคชัน Sony Headphone Connect
ราคา: 8,990 บาท
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ตัดได้หมด รีวิว หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 เสียงรบกวนไม่มีเล็ดลอด
Sony WF-1000XM4
สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
Apple Airpods Pro
และตัวสุดท้ายกับ Apple Airpods Pro มาพร้อมจุกซิลิโคน 3 ขนาด พร้อมช่องระบายอากาศช่วยปรับแรงดัน ทำให้คุณไม่รู้สึกอึดอัดแม้จะสวมหูฟัง In-Ear ไว้ในหูก็ตาม สามารถใช้งาน ANC เพื่อตัดเสียงรบกวนภายนอกหรือเปลี่ยนเป็นโหมดฟังเสียงภายนอกได้ง่าย ๆ เพียงแค่บีบที่ก้านหูฟัง พร้อมมาตรฐานการกันน้ำและเหงื่อระดับ IPX4
คุณภาพเสียงก็ดีแบบไม่มีข้อกังขา พร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งคือเมื่อคุณหันศีรษะไปทางอื่นจากตัวอุปกรณ์ที่เชื่อมกับหูฟัง ตำแหน่งเสียงก็จะตามคุณไปเหมือนมีเสียงโอบล้อมจากทุกทิศทาง การสนทนาก็ชัดเจนแม้จะใช้งานในที่ที่มีลมพัดแรง แบตเตอรี่ใช้ได้ยาว 24 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ เชื่อมต่อได้เร็วและต่อได้หลายอุปกรณ์อีกเช่นเดียวกัน
ราคา: 8,992 บาท
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เทียบสเปค รีวิว Apple AirPods & AirPods Pro ยังน่าซื้อไหม ซื้อรุ่นไหนเหมาะกว่า
Apple Airpods Pro
สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่
ถ้าคุณเป็นคนที่รักในการฟังเพลง คุณย่อมรู้ดีว่าไม่มีอะไรดีไปมากกว่าการฟังได้โดยไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอก ดังนั้นมามอบช่วงเวลาที่คุณจะได้ใช้กับตัวเองให้เต็มที่ด้วยการซื้อหูฟังที่มี Noise Cancelling ดูสิ แล้วคุณจะติดใจ จนไม่อยากเปลี่ยนไปใช้หูฟังแบบธรรมดาอีกเลย