ข่าวอาชญากรรม

ร.ต.อ.ทรงกลด ได้ประกันตัว คดีปืนลั่นใส่น้องปูนิ่ม

ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ร.ต.อ.ทรงกลด คดีปืนลั่นใส่น้องปูนิ่ม หลักทรัพย์เงิน 5 แสนบาท

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี แฟนสาวของร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสว.(สืบสวน) สน.วังทองหลาง นอนเสียชีวิตบนโซฟาในชุดนอน ถูกกระสุนขนาด .45 ยิงปลิดชีพ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก ย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยร.ต.อ.ทรงกลด ซึ่งอยู่ในบ้านเกิดเหตุเพียงผู้เดียว ให้การว่าแฟนสาวใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนของนายตำรวจหนุ่ม

Advertisements

ต่อมา วันที่ 20 มิ.ย. สน.ลาดพร้าวได้ส่งตัวร.ต.อ.ทรงกลดไปตรวจหาร่องรอยการต่อสู้ คราบเขม่าปืน สารเสพติด และแอลกอฮอล์ภายในร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผลการตรวจคราบเขม่าดินปืนพบ คราบเขม่าดินปืนที่ที่มือ ทั้งของร.ต.อ.ทรงกลด และน.ส.พิมชฎาพร

กระทั่งวันที่ 22 มิ.ย.ระหว่างการสอบสวน ร.ต.อ.ทรงกลดให้การสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนดื่มเบียร์ เมื่อ น.ส. พิมชฎาพร กลับมาจึงขอหลับนอนด้วย แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธ และลงมานอนที่โซฟาห้องหลับแขก จากนั้นจึงมีปากเสียกัน ตนชักปืนออกมาขู่ ก่อนจะเกิดการยื้อแย่งจนปืนลั่นใส่ น.ส.พมชฎาพร เสียชีวิต ระบุตนไม่ได้ตั้งใจยิน

ล่าสุดวันนี้ ( 23 มิ.ย.) แม่พร้อมทนายความของ ร.ต.อ.ทรงกลด ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวกับทางศาล ใช้หลักทรัพย์เงินสด 500,000 บาท ขณะนี้กำลังรอศาลพิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หากผู้ต้องหาขอประกันตัว พนักงานสอบสวนจะไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงต่อพยาน

คืบหน้าเวลาประมาณ 15.00 น. ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ไม่มีกำหนดเงื่อนไข เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน บวกกับพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว

ร.ต.อ.ทรงกลดตอบคำถามนักข่าวเพียงสั้น ๆ ก่อนขึ้นรถจากไปว่า เสียใจ เสียใจมาก ไม่ได้ตั้งใจ

Advertisements

Aindravudh

นักเล่าเรื่อง จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ ผู้สนใจประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ผนวกกับการเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเขียนงานวรรณกรรม ก่อนผันตัวมาเจาะประเด็นข่าวทางสังคม ออนไลน์ ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button