ลุยซ์ แจกโชค 3 ชั้น! ไฮไลท์แมนฯ ซิตี้ 3-0 อาร์เซนอล : พรีเมียร์ลีก – เคดีบี, ลิ่ง ตามนัด
ลุยซ์ แจกโชค 3 ชั้น! ไฮไลท์แมนฯ ซิตี้ 3-0 อาร์เซนอล : พรีเมียร์ลีก – เคดีบี, ลิ่ง ตามนัด : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไฮไลท์พรีเมียร์ลีกเมื่อคืนนี้ ไฮไลท์แมนซิตี้ อาร์เซนอล ไฮไลท์ฟุตบอล ล่าสุด เมื่อคืน
แมนฯ ซิตี้ 3-0 อาร์เซนอล – เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 มิถุนายน) เวลา 02.15 น. การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 นัดที่ 29 เกมนัดตกค้าง ระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้: (GK) เอแดร์ซอน, วอล์คเกอร์, เอริค การ์เซีย, ลาปอร์กต์, เมนดี้, กุนโดกัน, เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา (C), ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เฆซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิง
- อาร์เซนอล: (GK) เลโน่, เบเญริน, มุสตาฟี่, ปาโบล มารี, เทียร์นีย์, ชาก้า, เก็นดูซี่, โจ วิลล็อค, ซาก้า, เอ็นเคเทียห์ และ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง
เกมในวันนี้ เป๊ป นายใหญ่ของ เดอะ ซิติเซ่นส์ ตัดสินใจใช้บริการของ กาเบรียล เฆซุส หัวหอกสัญชาติบราซิเลียน และเก็บ ‘กุน’ อเกวโร่ ไว้เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า มาเหนือความคาดหมาย ไม่ใส่ชื่อของ เมซุต โอซิล แม้กระทั่งในม้านั่งสำรอง แถมยังส่งดาวรุ่งลงสนามมากถึง 4 คน
โดยก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นก็มีการให้กำลังใจเชิงสัญลักษณ์แก่ NHS หรือ บริการสุขภาพแห่งชาติ ของ สหราชอาณาจักร ที่คอยทุ่มเทแรงกายแรงใจรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการคุกเข่าเพื่อรณรงค์ต่อต้านการเหยียดสีผิว #BlackLivesMatter ซึ่งมีสาเหตุมาจากการฆาตกรรม นายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันอีกด้วย
นาทีที่ 4 เรือใบสีฟ้า ได้ฟรีคิกระยะหวังผล เควิน เดอ บรอยน์ อาสารับหน้าที่ปั่นบอลเข้าไปเยื้องๆ เสาสอง ทว่ายังไม่ผ่านมือของ แบรนด์ เลโน่ โอกาสยิงจังหวะแรกของเกมเป็นของ ซิตี้
นาทีที่ 7 อาร์เซนอล โชคร้ายตั้งแต่ยังไม่ถึงสิบนาที เมื่อ กรานิท ชาก้า กองกลางคนสำคัญ เจอจังหวะบอลอัดเข้าที่บริเวณข้อเท้าอย่างจัง สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหว อาร์เตต้า ต้องส่ง เซบาญอส ลงสนามมาแทน
นาทีที่ 12 ซิตี้ ได้ขึ้นเกมสวนมา เป็น KDB พาบอลขึ้นมาเองจากแนวหลัง หลังจากนั้นแทงให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เปิดไม่ดีติดแนวรับของ “ไอ้ปืนใหญ่”
นาทีที่ 13 ผู้มาเยือน จังหวะได้ลุ้นเรียกว่าน้อยมาก หนนี้ บูกาโย่ ซาก้า ที่เคยเป็นขาประจำในตำแหน่งแบ็คซ้าย วันนี้ถูกโยกไปเล่นปีกขวาได้ครอสบอลเข้ามาถึง เอ็นเคเทียห์ ได้ซัดถากๆ ออกหลัง
นาทีที่ 23 กูนเนอร์ส เริ่มได้กลิ่นความซวย เมื่อ ปาโบล มารี ที่เจอ วอล์คเกอร์ ใช้ความเร็วเอาชนะไปในจังหวะก่อนหน้า มีอาการบาดเจ็บขึ้นมาอีกคน ทำให้ต้องจำใจส่ง ดาวิด ลุยซ์ ลงสนามมาแทน
นาทีที่ 25 โอกาสของ ปืนใหญ่ มาบ้าง เดอ บรอยน์ ไปจ่ายพลาดง่ายๆ หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง วิลล็อค ไปตามเก็บบอลมาได้ก่อนไหลให้ โอบาเมยอง ได้ลองส่องแถวสองข้ามคานไปไม่ค่อยได้ลุ้น
นาทีที่ 34 ราฮีม สเตอร์ลิง ได้บอลเข้าเหลี่ยมถนัด ลากตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยขวา ทิศทางยอดเยี่ยม แต่ นายทวารชาวเยอรมัน ก็ยังบินเซฟเอาไว้ได้อีกแล้ว สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0
นาทีที่ 35 เรือใบ บดเอาประตูขึ้นนำต่อเนื่อง คราวนี้จากจังหวะเจาะแดนกลาง กาเบรียล เฆซุส ตาอย่างคม จ่ายให้ ดาบิด ซิลบา หลุดเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ เลโน่ ก็ยังออกมาปิดไว้ได้ดี
นาทีที่ 37 เจ้าบ้าน ขึงไม่หยุด คราวนี้ เดอ บรอยน์ อ่านขาดจ่ายให้ มาห์เรซ หลุดจะได้สังหารง่ายๆ อยู่แล้ว แต่ แบรนด์ เลโน่ ก็ยังคงถลาออกมาป้องกันแบบถึงเนื้อถึงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ซิตี้ ยังไม่นำ
GOAL! ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 45+2 สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ลุยซ์ ไม่รู้คิดอะไร ตัดสินใจใช้ต้นขาของตัวเองพักบอลจากลูกเปิดโค้งๆ ของ เดอ บรอยน์ กลายเป็นว่าบอลกระดอนแรงเข้าทางปืนของ สเตอร์ลิง ที่ง้างขายิงสวนตัว เลโน่ เข้าประตูไปเลย แมนฯ ซิตี้ ออกนำ พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0
เริ่มครึ่งหลังยังไม่ถึง 5 นาที มาห์เรซ ได้บอลหลุดไปใช้ความเร็วเอาชนะ ดาวิด ลุยซ์ ไปแล้ว แถมเหลี่ยมดีกว่า แต่ เซ็นเตอร์แบ็คบราซิเลียน ตัดสินใจ ดึง! แบบเต็มๆ โดยไม่มีเจตนาจะเล่นบอล สุดท้ายผู้ตัดสินเป่านกหวีดชี้เป็นลูกจุดโทษ พร้อมแจกใบแดงเป็นของกำนัลให้ ดาวิด ลุยซ์
ช็อตนี้แฟนบอลที่อยู่ทางหน้าจอโทรทัศน์ถึงกับช็อคไปตามๆ กัน เพราะ อดีตปราการหลังตัวเก่งของ สิงห์บลูส์ รายนี้ ลงสนามไปได้แค่ 26 นาที แต่แจก 1 ประตู แจกลูกโทษ 1 ประตู แถมโดนใบแดงไล่ออกไปอีก 1 ใบ เรียกได้ว่า โชคสามชั้นกันเลยทีเดียวเชียว
GOAL! เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด แมนฯ ซิตี้ 2 อาร์เซนอล 0
Back with a bang! pic.twitter.com/rSVNI4PKxT
— Kevin De Bruyne (@KevinDeBruyne) June 17, 2020
หลังจากเสียประตูได้ไม่กี่นาที ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่ต้องจับคู่ชั่วคราวกับ เทียร์นีย์ ดันไปโดน สเตอร์ลิง รวบจนเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บ อาร์เตต้า ถึงกับกุมขมับ โชคดีที่ยังกลับมาเล่นต่อไหว
นาทีที่ 59 กาเบรียล เฆซุส ขอลองส่องแถวสอง น้ำหนักใช้ได้ แต่ก็ไม่ผ่านมือของ แบรนด์ เลโน่
นาทีที่ 64 วอล์คเกอร์ หลุดมาทางกราบขวาอีกแล้ว คราวนี้ตบแรงๆ เข้ากลาง แต่ เลโน่ ก็พุ่งมาปัดอีก
นาทีที่ 69 เจ้าบ้าน เล่นกันสวยจัดๆ กุนโดกัน ตักบอลไปให้ สเตอร์ลิง แตะจังหวะเดียวถวายพานให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ยิงเต็มข้อแบบไม่จับ แต่บอลก็พุ่งไปตรงตัวของ แบรนด์ เลโน่
นาทีที่ 77 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ฟรีคิกหน้าหัวกะโหลก ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งทำท่าจะยิงแต่หลอกจ่ายให้ อิลคาย กุนโดกัน หลุดไลน์ล้ำหน้าไปยิงดื้อๆ แต่ เลโน่ ก็ออกมาป้องกันเอาไว้ได้
นาทีที่ 81 เอแดร์ซอน พยายามวิ่งออกมาสกัดบอลไว้นอกกรอบเขตโทษ แต่เข้าไปกระแทก เอริค การ์เซีย เซ็นเตอร์แบ็ครุ่นน้อง ถึงขั้นน็อค ทีมแพทย์ต้องรีบวิ่งมาปฐมพยาบาล ก่อนจะล็อคคอ-ตัว ใส่เปล นำส่งโรงพยาบาล อาการถือว่าดูค่อนข้างน่าเป็นห่วงในระดับหนึ่ง
เท่ากับว่าตอนนี้ทั้งสองทีมเหลือผู้เล่นในสนาม 10 คนเท่ากันแล้ว เนื่องจาก ซิตี้ เปลี่ยนผู้เล่นครบโควตา 5 คนไปเรียบร้อย – ผู้ตัดสินสั่งทดเวลาบาดเจ็บนานถึง 11 นาที
GOAL! นาทีที่ 90+1 เจ้าบ้าน ค่อยๆ แกะเพรสจากแดนหลังตัวเอง ก่อนเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ลงสนามมาในฐานะตัวสำรองกระชากบอลมาเอง แล้วทำชิ่ง 1-2 กับ ราฮีม สเตอร์ลิง สุดท้ายเป็น อเกวโร่ หลุดเข้าไปซัดก็ยังติดขาของ เลโน่ … แต่เป็น ฟิล โฟเด้น อีกหนึ่งดาวรุ่งตัวจี๊ดของ ซิตี้ ที่ตามมาซ้ำไม่เหลือซาก
ช่วงเวลาที่เหลือ ซิตี้ มีจังหวะได้ลุ้นจาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ อเกวโร่ คนละลูก แต่ก็ต้องชมความยอดเยี่ยมของ เลโน่ ขณะที่ ปืนใหญ่ เพิ่งจะมามีลุ้นจังหวะจบสกอร์เหน่งๆ ครั้งแรกของ โอบาเมยอง ในนาทีที่ 90+8 หมดเวลา 90 นาที “เรือใบสีฟ้า” แล่นฉลิวพัด “ปืนใหญ่” ปลิวออกจาก เอติฮัด ด้วยสกอร์ 3-0
https://www.facebook.com/Arsenal/photos/a.10150246028422713/10158148819737713/?type=3&theater
https://www.facebook.com/mancity/posts/10164387175720455?__xts__%5B0%5D=68.ARBrTJEdkKxmJKsC6i72MyN34EC9N_m-F126X6uv6lwmYzg4ON_yMIpvD9cTLoYRVmZxvyRo6SlYNTqGGGyJOdYIZeMHZHg7CBVBIZ-0ujiIf6lo1vJx8A_QeS0UeciwaSJoTZOOFwlLSmftKt4_dKDah0pROemQwnm17do_BPZOa6tV8HylvlkcBR04GotC32fVpoSc54sfxtL1XSaKgTGrQ9Z3aVoP9JS5pBdA8uV8RSzPC6fV–I9tCnpTBul9X9ravN6chrw1tqIPMbUNo_UY63CyIKhpTomccbg05Xna62hZZHhLs9LhR9x9_sjeKyWQqSaXu_wjBL3hZ43UmHBWlkXf-S-Q-S9evPiennXk0IvxjXQjSup6t146C5IwkI3hVCgGjnqeR4atPWxeAAldLOHloF8U_ElOw&__tn__=-R
ภาพจาก SOFASCORE
ไฮไลท์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 อาร์เซนอล
*ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง เชฟฯ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ แอสตัน วิลล่า ทีมท้ายตาราง ด้วยสกอร์ 0-0 ในเกมซึ่งมีจังหวะปัญหาครั้งใหญ่หลวง เมื่อ “ดาบคู่” ส่งบอลข้ามเส้นประตูไปแล้ว แต่ผลปรากฏว่า โกลไลน์เทคโนโลยี ของ ผู้ตัดสิน ไม่ทำงาน ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสเก็บสามคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย*
