พรีเมียร์ลีก

ขออีก 10 นัดพังสถิติ ! ไฮไลท์ วูล์ฟ 1-2 ลิเวอร์พูล, ฟิโน่กดชัย-มาเน่เจ็บหนัก

ศึก พรีเมียร์ลีก คู่เดียวของคืนวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2563 ระหว่าง หมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ได้เปิดบ้าน โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม รับมือการมาเยือนของ จ่าฝูงลีกอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่กำลังลุ้นเก็บชัยชนะ 40 นัดติดต่อกัน หากเก็บสามคะแนนในเกมนี้ได้

โดยทางเจ้าบ้านของ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต จัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงเช่นเคย มาด้วยแผน 3-5-2 ซึ่งสามประสานในแดนหน้าก็จะเป็น เปรโด เนโต้, อดาม่า ตราโอเร่ และ ราอูล ฆิเมเนซ

ส่วน เยอร์เกน คล็อปป์ จัดทัพชุดเดิม เช่นเดียวกันกับเกมแดงเดือดกับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยึดแผงหลังชุดหลัง สามแดนกลางมี จีนี ไวจ์นัลดุม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แชมเบอร์เลน ส่วนแนวรุกใช้ ซาล่าห์ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

GOAL !!! เริ่มเกมได้ 8 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากลูกเตะมุมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เปิดใส่หัวให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้โขกเหน่ง ๆ ผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ เข้าไปตุงตาข่าย ซึ่งแอสซิสต์นี้ของ เทรนท์ เป็นครั้งที่ 10 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้แล้วด้วย

นาทีที่ 11 เจ้าบ้าน วูล์ฟ น่าได้ประตูตีเสมอสุด ๆ จากจังหวะที่เล่นลูกเตะมุมสั้นเข้ามา ก่อน รูเบน เนเวส ครอสบอลข้ามแนวรับ หงส์แดง ไปที่เสาสองให้ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ที่ยืนอยู่คนเดียวได้โหม่งโล่ง ๆ แต่หลุดกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 18 มาเน่ เปิดบอลด้วยซ้ายโค้งหนีแนวรับ วูล์ฟ เลยไปถึง ซาล่าห์ ที่ยืนโล่งอยู่คนเดียว แต่กลับช้าหลายจังหวะ จนถูกบีบให้เข้าซ้ายและยิงไปติดแนวรับเจ้าบ้านออกหลังไปเท่านั้น

เลยมาถึงนาทีที่ 30 เจ้าบ้านทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายที่ ราอูล ฮิเมเนซ ส่งต่อให้ จอนนี่ กาสโตร พยายามกระชากพาบอลจี้เข้าไปในเขตโทษลิเวอร์พูลแต่กลับถูก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ใช้ความใหญ่และเหลี่ยมบอลที่ดีกว่าบังบอลออกไป

นาทีที่ 32 ลิเวอร์พูล งานเข้าอย่างจัง หลังจาก ซาดิโอ มาเน่ ส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัว เพราะมีอาการบาดเจ็บ คล็อปป์ จึงส่งทางด้าน ทาคูมิ มินามิโนะ ลงสัมผัสเกมลีกเป็นนัดแรกแทน

นาทีที่ 37 วูล์ฟ มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ ราอูล ฮิเมเนซ ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะเลี้ยงแหวกแนวรับทีมเยือนแล้วตวัดยิงด้วยขวาไปที่เสาแรก แต่หักข้อมากเกินไป ไม่เข้ากรอบ

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลทางกราบขวา ก่อนใช้ความเร็วสกีดหนีแนวรับ วูล์ฟ ไป 2-3 คน ก่อนจะเลือกยิงด้วยซ้าย ไปติดบล็อก แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ แม้ว่าจะมี มินามิโนะ เติมมาเป็นตัวเลือกก็ตาม ทำให้หมดครึ่งแรกไปด้วสกอร์ หงส์แดง ขึ้นนำ 1-0 เท่านั้น

ครึ่งหลังเริ่มเกมได้แค่นาทีเดียว ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อดาม่า ตราโอเร่ ไปเลี้ยงบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษตัวเองและโดน ซาล่าห์ ฉกบอลจากเท้าได้ แล้วยิงด้วยซ้ายทันที แต่ ปาตริซิโอ้ ยังปัดออกหลังได้หวุดหวิด

GOAL !!! นาที 51 แฟนหมาป่า ได้เฮลั่นสนาม เมื่อมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ ราอูล ฮิเมเนซ ถ่ายบอลออกขวาให้ อดาม่า ตราโอเร่ ก่อนวิ่งสปีดเข้าเขตโทษไปรอบอลเปิดของ ตราโอเร่ และได้โหม่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 55 วูล์ฟ ได้ลุ้นฟรีคิกทางด้านข้างกรอบเขตโทษฝั่งขวา เชา มูตินโญ่ เปิดโค้งเกือบไปเข้าหัวเพื่อนร่วมทีมอยู่แล้ว แต่เป็น อลิสซอน ออกมาทุบไว้ได้ก่อน

เข้าสู่นาที 64 เนเวส ถ่ายบอลออกทางด้านขวาให้ อดาม่า ตราโอเร่ ที่เติมขึ้นมา ก่อนได้บอลและลากจี้แนวรับ ลิเวอร์พูล แล้วได้กดเต็มข้อด้วยเท้าขวา บอลกำลังจะพุ่งเสียบเสาสองแต่เป็น อลิสซอน ที่เซฟไว้ได้อีกครั้ง ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ

นาทีที่ 82 หงส์แดง เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดทางฝั่งซ้ายแต่ไม่ผ่าน รุย ปาตริซิโอ ที่ยังล้มตัวใช้เท้าป้องกันบอลออกไปได้

GOAL !!! มีประตูเกิดขึ้นจนได้ นาทีที่ 84 เป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ประตูนำ 2-1 จากจังหวะจังหวะที่ ซาล่าห์ ได้ครองบอลก่อนหลุดเท้าไปเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายให้ ฟีร์มีโน่ แต่งด้วยขวาก่อนหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยม ปาตริซิโอ หมดสิทธิ์เซฟ

นาทีที่ 90+2 วูล์ฟ พลาดโอกาสทองได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ตราโอเร่ พาบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนเลี้ยงจี้และเปิดที่สุดเส้นหลังไปที่เสาสองให้ทาง ฮิเมเนซ ดึงบอลลงพื้นแล้วจ่ายให้ โจต้า ได้ยิงจ่อ ๆ ด้วยซ้าย หลุดข้ามคาน อย่างน่าเสียดาย

สิ้นเสียงนกหวีดยาว ลิเวอร์พูล บุกมาเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 เก็บสามคะแนนเพิ่มเป็น 67 คะแนน ฉีกหนี แมนซิตี้ รองจ่าฝูงเป็น 16 คะแนนพร้อมกับแข่งน้อยกว่า 1 นัด และเป็นชัยชนะนัดที่ 40 ติดต่อกันแล้วด้วย ส่วน วูล์ฟ มี 34 คะแนนเท่าเดิมอยู่อันดับ 7

ไฮไลท์ วูล์ฟ 1-2 ลิเวอร์พูล

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

วูล์ฟแฮมป์ตัน (3-4-1-2) : รุย ปาตริซิโอ – คอนอร์ เคาดี้, โรแม็ง ซาอิสส์, เลอันแดร เดนดองเกอร์ – รูเบน เนเวส, ชูเอา มูตินโญ่ (มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ น.87), จอนนี่ กาสโตร, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ – เปโดร เนโต้ (ดิโอโก้ โจต้า น.77) – อดาม่า ตราโอเร่, ราอูล ฮิเมเนซ
ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ฟาบินโญ่ น.70), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดิว็อค โอริกี้ น.85),ซาดิโอ มาเน่ (ทาคูมิ มินามิโนะ น.32), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button