การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 22 ประจำฤดูกาล 2019/20 การพบกันระหว่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ
เกมนี้เจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จัดทัพลงสนามมาในระบบ 4-3-3 ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ แบร์นาโด้ ซิลบา เป็น 3 ผสานแนวรุก แดนกลางมี เควิน เดอ บรอยน์ และ ดาบิด ซิลบา สร้างสรรค์เกม
ทางฝั่ง คริสตัล พาเลซ ของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน จัดทัพมาในระบบ 4-5-1 เซงค์ โทซุน กองหน้าที่ยืมมาจาก เอฟเวอร์ตัน ได้โอกาสออกสตาร์ทค้ำหอกหน้าเป้า ริมเส้นยังคงเป็น วิลฟรีด ซาฮา และ จอร์แดน อาร์ยิว แดนกลางมี เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ เป็นแกนหลัก
Your City line-up to take on Crystal Palace!
Ederson, Cancelo, Stones, Fernandinho, Mendy, Gundogan, Silva (C), De Bruyne, Bernardo, Sterling, Aguero
Subs | Bravo, Walker, Jesus, Rodrigo, Mahrez, Otamendi, Foden
⚽️ @haysworldwide
🔵 #MCICRY #ManCity pic.twitter.com/bavOrlpdTx— Manchester City (@ManCity) January 18, 2020
นาทีที่ 28 บอลเป็นของ แมนซิตี้ แทบจะฝั่งเดียวค่อย ๆ เจาะแนวรับของ พาเลซ แล้วก็มาได้จังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ขึ้นทางขวาก่อนครอสไปเสาสองให้ สเตอร์ลิ่ง พยายามโหนโหม่งแต่โด่งออกหลัง
GOAL !!! นาทีที่ 39 กลายเป็นทีมเยือนที่ออกนำไปก่อน จากจังหวะ แม็คคาร์ธี่ เปิดจากทางขวามาเสาไกลให้ เคฮิลล์ โหม่งย้อนกลับมาเสาแรก จบด้วย โทซุน เป็นคนโขกเข้าประตู พาเลซ ออกนำเลย 1-0
นาทีที่ 42 เรือใบ ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะ แบร์นาโด้ ซิลบา ได้ปั่นแบบเต็ม ๆ ข้อจากทางซ้าย แต่ทาง กวยต้า ปัดเอาไว้ได้
ช่วงครึ่งแรก แมนซิตี้ ลุยอย่างหนักแต่พาบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายของ พาเลซ ยากมาก แดนกลางถอยลงมาช่วยเก็บกวาดได้ดี ก่อนจบครึ่งแรก พาเลซ บุกมานำ แมนซิตี้ 0-1
HALF-TIME | Against the run of play, we're behind at the break.
🔵 0-1 🦅 #MCICRY #ManCity pic.twitter.com/0799qsM56l
— Manchester City (@ManCity) January 18, 2020
นาทีที่ 52 แมนซิตี้ ลุยต่อทันทีหลัง เมนดี้ ครอสถึง อเกวโร่ ในเขตโทษได้ยิงแต่เจอ เคฮิลล์ บล็อกเอาไว้แล้วบอลยังไม่ตาย แบร์นาร์โด้ พยายามตามซ้ำแต่ ไกวต้า ออกมาปิดมุมไว้ทัน
VAR !!! นาทีที่ 73 แมนซิตี้ เกือบได้จุดโทษแล้วจากที่ รีเดวัลด์ ยืดขาสกัดบอลแล้วบอลเด้งโดนแขนตัวเองจังหวะไม่น่าให้เท่าไหร่แต่กรรมการชี้ทันที VAR มาเช็คอีกทีสุดท้ายเปลี่ยนคำตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษ
GOAL !!! นาทีที่ 82 แมนซิตี้ ทำสำเร็จเอาประตูตีเสมอจนได้ จากจังหวะ เมนดี้ เปิดไปหน้าเขตโทษ เชซุส ยังเก็บได้ทางซ้ายของเขตโทษก่อนครอสลึกมาถึงเสาไกลให้ อเกวโร่ ปรี่มาทิ้งตัวชาร์จจ่อๆเข้าไป แมนซิตี้ ฟื้นแล้วตีเจ๊า 1-1
GOAL !!! นาทีที่ 87 เรือใบสีฟ้า เฮกันลั่นเมื่อมาได้ประตูขึ้นนำจาก อเกวโร่ จากจังหวะ เมนดี้ ทางซ้ายครอสเข้าไปให้ อเกวโร่ ไร้ตัวประกบโหม่งกดส่งบอลกระดอนพื้นผ่าน ไกวต้า เข้าประตู แมนซิตี้ แซงนำ 2-1
FULL-TIME | Despite two late @aguerosergiokun goals, we have to settle for a point.
🔵 2-2 🦅 #MCICRY #ManCity pic.twitter.com/SiHgnCnuwl
— Manchester City (@ManCity) January 18, 2020
GOAL !!! นาทีที่ 90 เจ้าบ้านดีใจได้เดี๋ยวเดียวเจอ พาเลซ บุกกลับมาเอาประตูตีเสมอได้เฉยเลย เมื่อ ซาฮา รออยู่ทางซ้ายเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแล้วปาดมาหน้าประตูแล้ว แฟร์นานดินโญ่ สกัดไม่ออกบอลเด้งเข้าประตูแทน พาเลซ กลับมาตีเจ๊า 2-2
หมดเวลา 90 นาที เป็นทางด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรัง เอติฮัด เจ๊ากับ คริสตัล พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 2-2 แบ่งกันไปคนละหนึ่งแต้ม โดยทางด้าน เรือใบสีฟ้า ยังอยู่อันดับ 2 ตามเดิมมีแต้มเพิ่มเป็น 48 คะแนน ตามหลัง ลิเวอร์พูล 13 คะแนนแข่งมากกว่า 2 นัด ส่วน พาเลซ อยู่อันดับ 9 มี 30 คะแนน
ไฮไลท์ แมนซิตี้ 2-2 คริสตัล พาเลซ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนซิตี้ : เอแดร์ซอน – ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, แฟร์นันดินโญ่, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา – แบร์นาร์โด้ ซิลวา เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง
คริสตัล พาเลซ : บีเซนเต้ ไกวต้า – มาร์ติน เคลลี่, เจมส์ ทอมกิ้นส์, แกรี่ เคฮิลล์, ไยโร รีเดอวัลด์ – จอร์แดน อายิว, เชกู กูยาเต้, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, วิลฟรีด ซาฮา – เชง โตซุน
