
กรณีพิพาทส่งท้ายปี 2025 เรื่องราวใหญ่โต ศิลปินระดับตำนานอย่าง โดม ปกรณ์ ลัม ยอมรับคอมเมนต์คุกคาม จินนี่ ยศสุดา ลูกสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จนนำไปสู่การฟ้องร้อง ต้อนรับกฎหมายคุกคามทางเพศฉบับใหม่ ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้เพียง 1 ชั่วโมง
เรื่องราวปะทุขึ้นเมื่อมีผู้พบเห็นข้อความจากบัญชีเฟซบุ๊กทางการ ของ โดม ปกรณ์ ลัม ไปปรากฏอยู่ในช่องแสดงความคิดเห็นใต้รูปภาพของ จินนี่ ยศสุดา ซึ่งรูปนั้นโพสต์อยู่ในเพจของ ดิว วีรวัฒน์
สิ่งที่ทำให้สังคมวิจารณ์อย่างหนักคือเนื้อหาของคอมเมนต์ดังกล่าว ใช้ถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง และมีลักษณะคุกคามทางเพศอย่างชัดเจน จนเกิดคำถามว่าศิลปินรุ่นใหญ่เป็นผู้พิมพ์ข้อความนี้ด้วยตนเองหรือไม่

ทันทีที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์เริ่มรุนแรง โดม ปกรณ์ ลัม ออกมาชี้แจงในเบื้องต้นว่าเขาไม่ได้เป็นผู้กระทำ อ้างว่าเพจของเขามีแอดมินดูแลหลายคน กำลังเร่งตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด
อย่างไรก็ตาม โดมตัดสินใจอัดคลิปวิดีโอเปิดเผยความจริง เขาเปลี่ยนคำให้การ ยอมรับว่า เป็นคนโพสต์ข้อความนั้นเอง ให้เหตุผลว่า การกระทำดังกล่าวเกิดจาก อาการมึนเมา จนขาดสติในช่วงงานฉลองปีใหม่ อ้างว่าในขณะนั้นเขาไม่ทราบว่าบุคคลในภาพคือ จินนี่ ยศสุดา เขาได้กล่าวขอโทษจินนี่กับครอบครัวผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมแสดงความจำนงที่จะเข้าไปขอโทษคุณหญิงสุดารัตน์ด้วยตัวเอง
แม้ทางฝั่งคู่กรณีจะออกมาขอโทษและยอมรับผิด แต่ฝ่ายผู้เสียหายมองว่าเรื่องนี้เป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ ทาง จินนี่ ยศสุดา กับพรรคไทยสร้างไทย จึงตัดสินใจส่งทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ โดม ปกรณ์ ลัม อย่างเป็นทางการในข้อหา คุกคามทางเพศ
ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้ออกมาโพสต์เพิ่มเติมว่า “การตัดสินใจแจ้งความในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างครอบครัว และสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย
โดยเราพิจารณาอย่างมีวุฒิภาวะร่วมกันว่า เรื่องการคุกคามเช่นนี้ไม่ควรที่จะเกิดกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าเพศใด ไทยสร้างไทย ในฐานะพรรคการเมือง ต้องทำหน้าที่ปกป้องการคุกคาม และการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด หรือเกิดขึ้นกับใคร
ดังนั้นการตัดสินใจดำเนินคดีในครั้งนี้ จึงเป็นไปเพื่อการสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมไทย
ว่าเราควรจะอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร มีสถานะใด หรือเพศสภาพใด ก็ไม่ควรได้รับการดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือคุกคาม จากใครทั้งสิ้น”

ติดตาม The Thaiger บน Google News:



