ศาลพิพากษาจำคุก สองครูฝึก 8 เดือน คดีพลทหารเสียชีวิตหลังการฝึก

ศาลพิพากษาจำคุก สองครูฝึก 8 เดือน คดีพลทหารกิตติธร ที่เสียชีวิตหลังการฝึก ถือเป็นคดีทหารแรกที่เข้ากระบวนการยุติธรรมของศาลอาญา
Cross Cultural Foundation หรือ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งข่าวว่า “คดีพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต เสียชีวิตหลังเข้ารับการฝึก
ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 1 ปี ครูฝึก 2 นาย ในความผิดตามมาตรา 6 พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา
วันนี้ (18 ธ.ค. 2568) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ มีคำพิพากษาในคดีการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ทหารเกณฑ์ผลัดที่ 1/66 ค่ายเม็งรายมหาราช ที่เสียชีวิตหลังเข้ารับการฝึก จากอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อ พ.ศ. 2566 โดยตัดสินลงโทษจำคุก 1 ปี ครูฝึก 2 นาย ในความผิดฐานปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ ศาลจึงพิพากษาลดโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 8 เดือน
หลังจากฟังคำพิพากษา แก้วกัญญา แซ่ลี ภรรยาของกิตติธร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า รู้สึกดีใจที่ศาลเห็นความสำคัญของพลทหารกิตติธรและครอบครัว รวมทั้งเชื่อถือในคำให้การของเธอ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เธอได้รับฟังจากกิตติธรมาทั้งหมด
“(ต่อสู้มา) 2 ปีกว่าแล้วค่ะ ที่อยู่ได้วันนี้ก็คือว่ามีลูกค่ะ เขาไม่มีพ่อแล้ว หนูคงต้องสู้… ถ้าเขายังอยู่ก็คงไม่มีอะไรให้ทุกข์ใจเลย”
“อยากให้เขา (กองทัพ) เอาเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน และก็ดูแลพลทหารคนอื่นๆ จริงๆ หนูไม่ได้อยากให้มีการเกณฑ์ทหารต่อไปด้วยซ้ำ แต่ว่าถ้ายังทำอะไรไม่ได้ ก็อยากให้เขาดูแลคนในความปกครองของเขาให้ดีๆ เพราะว่าเขาก็เป็นลูก มีพ่อมีแม่ มีคนเป็นห่วงเขาเหมือนกัน ไม่มีใครอยากไปเกณฑ์ทหาร แต่ว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องไป เอาคนของเราไปแล้ว ก็ฝากให้เขาดูแลให้ดีๆ เหมือนลูกของเขาด้วยค่ะ” แก้วกัญญากล่าว
คดีพลทหารกิตติธร นับเป็นคดีแรกที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมภายใต้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ และอาจเป็นหนึ่งในบรรทัดฐานที่สำคัญในการบังคับใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ในการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ รวมถึงเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญในการช่วยปกป้องคุ้มครองผู้เสียหาย อาทิ ทหารชั้นผู้น้อยที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้บังคับบัญชา และไร้ซึ่งอำนาจต่อรองในการเรียกร้องต่อสู้หาความเป็นธรรมให้กับตนเอง ผ่านการใช้กลไกตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ
พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวในประเด็นนี้ว่า “คดีนี้น่าจะเป็นคดีแรกที่มีนายทหารเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลอาญาที่เป็นศาลยุติธรรม สุดท้ายก็เป็นบรรทัดฐานที่สำคัญว่า ถ้าทหารกระทำผิดต่อพลเรือน และเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ก็คือ การทำร้ายร่างกายจิตใจ จะต้องขึ้น ‘ศาลพลเรือน’ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลทหาร ออกแถลงคดีน้องเมย ไม่ใช่คดีทำร้ายร่างกาย จนถึงแก่ความตาย
- แม่น้องเมยเล่าทั้งน้ำตา ลูกถูกสั่งซ่อม เพราะแค่ใช้บันได ก่อนดับปริศนา
- ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.ศาลทหาร เปิดทางประชาชนฟ้องคดีอาญาในศาลทหารได้
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





