กัมพูชา เรียกร้องสหรัฐฯ ตรวจสอบไทยใช้อาวุธสหรัฐฯ ถล่มชายแดน-ละเมิดหยุดยิง

ชุมชนชาวกัมพูชาทั่วโลก ยื่นหนังสือร้องเรียน “ทรัมป์” จี้สอบไทยใช้อาวุธสหรัฐฯ และเครื่องบิน F-16 โจมตีข้ามพรมแดน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ตัวแทนชุมชนชาวกัมพูชาทั่วโลกได้รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนด่วนถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันเข้ามาดำเนินการตรวจสอบและระงับความร่วมมือทางทหารกับประเทศไทยทันที หลังมีข้อกล่าวหาว่ากองทัพไทยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐฯ จัดหาให้ โดยเฉพาะเครื่องบินขับไล่ F-16 ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและกฎหมายระหว่างประเทศ
หนังสือร้องเรียนระบุว่า ไทยได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามไว้เมื่อเดือนตุลาคมอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา กองทัพไทยได้เปิดฉากปฏิบัติการทางทหารระลอกใหม่ และแม้จะมีความพยายามเจรจาหยุดยิงอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม แต่นายกรัฐมนตรีของไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล กลับประกาศเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป ซึ่งฝ่ายกัมพูชาอ้างว่ามีการโจมตีทางอากาศไกลถึงจังหวัดเสียมราฐ ห่างจากชายแดนกว่า 70 กิโลเมตร สร้างความเสียหายต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากประเด็นเรื่องอาวุธ กลุ่มตัวแทนชาวกัมพูชายังเรียกร้องให้สหรัฐฯ กดดันไทยให้ปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกควบคุมตัวไปตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งพวกเขาอ้างว่าขัดต่ออนุสัญญาเจนีวาและข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ พร้อมทั้งระบุถึงผลกระทบทางมนุษยธรรมที่รุนแรง โดยอ้างตัวเลขผู้เสียชีวิต พลเรือนบาดเจ็บ และผู้พลัดถิ่นจำนวนมาก รวมถึงความเสียหายต่อโรงเรียนและโรงพยาบาล
ชุมชนชาวกัมพูชาเตือนว่า การที่สหรัฐฯ เพิกเฉยต่อการที่ไทยนำอาวุธสัญชาติอเมริกันไปใช้ในปฏิบัติการที่ถูกมองว่าเป็นการรุกราน อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องร่วมรับผิดชอบทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม จึงเรียกร้องให้สหรัฐฯ แสดงความเป็นผู้นำโลกด้วยการระงับความร่วมมือทางทหารกับไทย จนกว่าไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศและหยุดการโจมตี
ที่มา: KAMPUCHEA THMEY DAILY
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กัมพูชา รายงาน พลเรือนเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดดับพุ่ง 17 ศพ อ้างไทยละเมิดหยุดยิง
- Trip.com โต้ ไม่มีการขายข้อมูลผู้ใช้บริการให้กัมพูชา หลังพบ “ฮุนมาเนต”
- ฮุนเซน โต้ข่าวลือ ยันกัมพูชา ไร้ทหารรับจ้างต่างชาติ ร่วมรบปมขัดแย้งไทย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





