ตำรวจบุกรวบ ชาวไทย-ไนจีเรีย เอี่ยวโรแมนซ์สแกม ทำเหยื่อสูญ 114 ล้าน

ตำรวจบุกรวบ ชาวไทย-ไนจีเรีย รวม 6 ราย เอี่ยวโรแมนซ์สแกม ทำเหยื่อสูญ 114 ล้าน ยึดทรัพย์จากการกระทำผิดได้ 2.5 ล้านบาท
พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท. สั่งการ พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ปอท. เปิดปฏิบัติการ “Romance 114” เข้าตรวจค้นหลายจุดในพื้นที่ กทม. และ จ.ชลบุรี เพื่อทลายเครือข่ายแก๊งโรแมนซ์สแกมหลอกลวงเงินเหยื่อ ก่อนสามารถจับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 6 ราย
ประกอบด้วย น.ส.วริศรา อายุ 20 ปี นายเฉลิมชัย อายุ 23 ปี น.ส.ผาณิตา อายุ 31 ปี นายอึมมาดุอาบูชุ หรือ นายบอนซี อายุ 31 ปี สัญชาติไนจีเรีย น.ส.เกศินี อายุ 28 ปี และ น.ส.ศริยา อายุ 40 ปี โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา
ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ทุจริต หรือ หลอกลวง โดยการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ , สมคบฟอกเงินและ ร่วมกันฟอกเงิน” พร้อมยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจ กก.3 บก.ปอท. หลังถูกแก๊ง Romance Scam สร้างแอคเคาท์ปลอมในสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการใช้รูปภาพชาวต่างชาติหน้าตาดีเข้ามาทำทีตีสนิท ก่อนหลอกลวงให้โอนเงินกว่า 114 ล้านบาท หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส
กระทั่งทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ และแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นแบบแผน โดยมีบอสใหญ่ชาวไนจีเรีย คอยสั่งการจากต่างประเทศ ผ่านนายอึมมาดุอาบูชุ ชาวไนจีเรีย และ น.ส.ผาณิตา ภรรยาชาวไทย ที่คอยเป็นผู้ประสานกับกลุ่มผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ ในประเทศไทย และคอยจัดหาบัญชีม้าสำหรับรับโอนเงิน
ทั้งนี้เมื่อสามารถหลอกเหยื่อให้โอนเงินมาให้ได้แล้ว บอสใหญ่ จะสั่งการมายัง นายอึมมาดุอาบูชุ และ ภรรยา ให้ว่าจ้าง น.ส.วริศรา กับ นายเฉลิมชัย ไปตระเวนถอนเป็นเงินสดออกมา แล้วนำมาส่งมอบให้ น.ส.ผาณิตา ตามจุดนัดหมายต่าง ๆ
จากนั้น น.ส.ผาณิตา ก็จะนำเงินทั้งหมดที่ได้ส่งต่อให้กับ นายอึมมาดุอาบูชุ เพื่อนำไปแลกเป็นเงินไนจีเรีย แล้วโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ นายชินิเน่ คอลลิน ชาวไนจีเรีย และ น.ส.ศริยา กับ น.ส.เกศินี สองภรรยา เพื่อแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิตอล หรือ คริปโต ก่อนโอนต่อไปยังปลายทางไนจีเรีย
โดยแต่ละครั้งที่มีการถอนเงินผู้ต้องหาทั้งหมด จะได้รับเงินส่วนแบ่งจากบอสใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 3-4 ของจำนวนเงินที่ถอนในแต่ละครั้ง ซึ่งเมื่อปรากฎพบหลักฐานการกระทำผิดแน่ชัดเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจนนำมาสู่การเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินต่าง ๆ
รวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาทไว้เป็นของกลางดังกล่าว คงเหลือเพียง นายชินิเน่ คอลลิน ที่ไหวตัวทันชิงหลบหนีออกนอกประเทศไปได้ก่อน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





