บันเทิง

“น้ำแข็ง AF7” รับผิดเอง ปมยืมเงิน “ผ้าแพร” เผย บอกปัญหาไม่หมด เพราะกลัวไม่ได้เงิน

“น้ำแข็ง AF7” ยอมรับ ไม่ได้บอกทั้งหมดว่าบริษัทมีปัญหา ตอนชวน “ผ้าแพร” ลงทุนและยืมเงิน เพราะกลัวไม่ได้เงิน พร้อมทยอยจ่ายคืน

ในรายการโหนกระแส นายชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว หรือ น้ำแข็ง AF7 ได้ออกมาชี้แจงในรายการ เนื่องจากวานนี้ (5 พ.ย.) ได้มีผู้เสียหายออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากที่ถูกน้ำแข็งและภรรยา ชวนลงทุนธุรกิจก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูปแบรนด์หนึ่ง แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นไปตามที่ตกลง ทำให้มีผู้เสียหายสูญเงินรวมกันเป็นจำนวน 50 ล้านบาท

ตอนหนึ่ง น้ำแข็ง ได้ชี้แจงต่องกรณีผ้าแพร ซึ่งมีทั้งเรื่องของการยืมเงินและการชวนทำธุรกิจ แล้วผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ว่า “เงินยืมที่ผมยืมผ้าแพรจำนวน 300,000 บาท ผมเป็นคนโทรไปหาน้องเอง ประโยคแรกที่พูดเลยคือเรื่องเงินนะ ที่ผมคุยกับน้อง เพราะว่าพอผมคิดว่าน้องน่าจะมีกำลังพอจะช่วยเรื่องนี้ได้ ก็โทรขอความช่วยเหลือ ขอยืมก้อนแรก 300,000 น้องก็ให้ยืมพร้อมกับต้องวางเล่มทะเบียนรถเป็นหลักประกัน

วันนั้นที่บริษษัทกำลังวิกฤต ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่ออุ้มบริษัทกับเอย หาทาง ยืมเงิน ขายของทุกอย่างของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทุกอย่างที่สามารถแปรเป็นเงินได้เร็วที่สุดเอามาอุ้มบริษัทให้ได้ แล้วสุดท้ายพอไม่พอก็ต้องหยิบยืมคนอื่น

เริ่มที่ผ้าแพร 300,000 เป็นก้อนแรกที่เขาให้ยืม แล้วผมก็ทราบซึ้งใจมากจนถึงทุกวันนี้ ก็ขอบคุณมากที่ให้ยืมแต่ขอโทษที่ไม่สามารถจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคุยกันไว้ได้ จากความผิดพลาดที่สะสมมาเยอะมากจริง ๆ แล้วมีอีกก้อนนึงด้วย ไม่ใช่แค่ 300,000

น้ำแข็ง AF7 ชี้แจงต่อกรณียืมเงินผ้าแพร
YT/ โหนกระแส [Hone-Krasae] official
พอผมเห็นแล้วว่าไปยืมผ้าแพร ไปยืมใครก็ตามหรือที่บ้าน ที่ผมยืมมาเหมือนกัน มันอุ้มไม่ไหว ก็เลยโทรไปชวนน้องว่าอยากมาร่วมทำกับพี่ไหม เพราะผมเชื่อในศักยภาพเงินของน้อง แล้วน้องมีความเชี่ยวชาญในด้านการทำบัญชี พอมาคุยกันก็ไปได้ดี ในตอนแรกที่ตกลงกันไว้ แต่สิ่งที่ผิดพลาดคือผิดพลาดจากฝั่งผมที่ไม่ชัดเจน

ส่วนก้อนหนึ่งล้านก็เป็นการยืมมาเพื่ออุ้มธุรกิจอีก จนสุดท้ายพอไม่ไหวจึงชวนน้องเข้ามาทำด้วย ก็คุยตกลงกันว่าเขาจะเป็นคนผลิต แล้วก็ให้เราเป็นคนขายเจ้าเดียว แต่พอคุยกันไปกันมาแล้วไม่รู้เรื่อง ไม่ได้มีผมกับผ้าแพร จะมีคนอื่นเข้ามาด้วย บอกว่าเป็นแบบนี้ ๆ นะ จนสุดท้ายเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวผมและเอย

ซึ่งตรงนี้ผมขอพูดเลยว่า พี่กับเอยผิดเอง ที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไม่ชัดเจนกับผ้าแพร กับครอบครัวผ้าแพรตั้งแต่แรกว่าบริษัทมีปัญหาอะไรบ้าง ไม่ได้บอกทั้งหมด ตรงนี้ผมยอมรับ สิ่งที่ผ้าแพรดีก็คือเป็นคนชัดเจนมาก ทำอะไรชัดเจนตรงไปตรงมา ผมรู้สึกว่าทำไมวันนั้นเราไม่บอกให้หมดไป ปัญหาจะได้ช่วยกันแก้ แต่พอน้องรู้ปัญหาตอนหลัง น้องก็รู้สึกไม่สบายใจ แล้วทำธุรกิจต่อด้วยกันยาก เพราะว่าน่าจะไม่ไว้วางใจผมและเอยแล้ว

น้ำแข็ง ได้ชี้แจงต่อเรื่องของการที่บอกต่อผ้าแพรไม่หมดว่า ปิดไปว่าบริษัทมีหนี้ที่ถูกฟ้องมาจากที่ต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้บอกไป แล้วไม่ได้บอกปัญหาภายในทั้งหมด สมมติมีปัญหาอยู่ 100 เราอาจจะบอกไปแค่ 20-30 เพราะหนึ่งนี่คือความผิดพลาดของผมกับเอยคือกลัวเขาไม่ให้เงิน กลัวเขาไม่ช่วย

ในส่วนเงินก้อน 300,000 น้ำแข็งบอกว่าทยอยจ่ายไปแล้ว สามสี่งวด ทนายของน้ำแข็งกล่าวต่อว่า ส่วนก้อนหนึ่งล้านบาท ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้กันแล้วว่าเราจะเริ่มชำระกัน 1 มกราคม 2569 จะผ่อนจ่ายหลังจากจบก้อน 300,000 บาท และผ่อนอีก 18 งวด หลังจากผ่อน 18 เดือน เราก็จะเริ่มผ่อนชำระของยอดอีก 1.3 ล้านบาท ที่มีการยืมเข้าเพื่อซื้อวัตถุดิบและผลิต

นอกจากนั้น น้ำแข็ง กล่าวว่า เคสของผ้าแพรจะต่างจากเคสท่านอื่น ๆ ผมยินดีที่จะจ่าย ทุกความเสียหายเรารับผิดชอบ ทุกเงินที่เอามาลงทุน หรือเอามาช่วยเรารับผิดชอบ แต่เราแค่ขอเวลาหาเงิน แล้วก็ทยอยจ่าย”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button