สุขภาพและการแพทย์

เตือนภัยสายบุฟเฟต์ ระวัง ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ โรคยอดฮิตที่มีจุดจบเดียวคือ ‘การผ่าตัด’

ทำความรู้จัก โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) โรคอันตรายที่เกิดจากการสะสมคอเลสเตอรอล สาเหตุหลักมาจากการกินอาหารไขมันสูง วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก

สำหรับคนทำงานและมนุษย์เงินเดือน การให้รางวัลตัวเองด้วยอาหารอร่อยๆ อย่างบุฟเฟต์ ชาบู หรือปิ้งย่าง ถือเป็นความสุข แต่หลายคนอาจลืมไปว่าอาหารเหล่านี้มีไขมันสูงและเป็นสาเหตุสำคัญของโรคร้าย โดยหนึ่งในโรคอันตรายที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ คือ “นิ่วในถุงน้ำดี” (Gallstones) ซึ่งเป็นโรคที่หากเป็นแล้ว วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเท่านั้น

นิ่วในถุงน้ำดีคืออะไร?

นิ่วในถุงน้ำดี คือตะกอนของแข็งที่สะสมอยู่ในถุงน้ำดี ซึ่งอาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายไปจนถึงใหญ่เท่าลูกมะกรูด โดยถุงน้ำดีมีหน้าที่ทำให้น้ำดีเข้มข้นเพื่อใช้ในการย่อยและดักจับไขมัน

เมื่อเกิดนิ่วขึ้น การทำงานของถุงน้ำดีจะผิดปกติ และถ้าก้อนนิ่วหลุดไปอุดที่ท่อน้ำดีใหญ่ อาจส่งผลให้เกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

นิ่วในถุงน้ำดีแบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่ ชนิดคอเลสเตอรอล เกิดจากการมีคอเลสเตอรอลในน้ำดีมากเกินไป ส่วนอีกหนึ่งชนิดก็คือ ชนิดเม็ดสีบิลิรูบิน มักพบในผู้ป่วยโรคตับแข็ง หรือผู้ที่มีภาวะผิดปกติของเลือด เช่น โรคโลหิตจาง

ใครบ้างที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?

เนื่องจากนิ่วที่พบบ่อยที่สุดคือชนิดคอเลสเตอรอล ปัจจัยเสี่ยงจึงเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกินอาหารเป็นหลัก

  • ความอ้วน ถือเป็นตัวการสำคัญที่สุด เพราะทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีเพิ่มมากขึ้น
  • พฤติกรรมการกิน ชอบทานอาหารไขมันสูง, บุฟเฟต์, ปิ้งย่าง ฯลฯ
  • การใช้ชีวิต ไม่ชอบออกกำลังกาย และไม่ชอบทานผัก
  • เพศและอายุ พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • ฮอร์โมน ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนทดแทนจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลในถุงน้ำดี
  • กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวเคยเป็น ก็มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

สังเกตอย่างไรว่ากำลังมีนิ่ว?

ความอันตรายของโรคนี้คือมักจะไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก แต่สามารถสังเกตอาการผิดปกติที่เป็นสัญญาณเตือนได้ เช่น

  • คลื่นไส้ อาเจียน, ท้องอืด ท้องเฟ้อ, อาหารไม่ย่อยบ่อยๆ
  • รู้สึกแสบร้อนที่อก มีลมในกระเพาะอาหาร
  • หลังรับประทานอาหารมันๆ มักมีอาการเสียดท้อง แน่นท้องบริเวณลิ้นปี่
  • หากมีอาการรุนแรง จะปวดท้องอย่างรุนแรงต่อเนื่องบริเวณท้องส่วนบนด้านขวา (ตำแหน่งถุงน้ำดี), มีไข้, หรือมีภาวะ ตัวเหลือง ตาเหลือง ร่วมด้วย

ทางรักษาที่ดีที่สุด

หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี วิธีการรักษาเดียวที่ดีที่สุดคือ “การผ่าตัด” ในอดีตการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้องจะทำให้แผลใหญ่และใช้เวลาพักฟื้นนาน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นด้วย “การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก” (Laparoscopic Surgery)

  • วิธีการผ่าตัด แพทย์จะเจาะรูเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 1 ซม. ประมาณ 3 จุด แล้วสอดกล้องและเครื่องมือขนาดเล็กเข้าไปทำการผ่าตัด
  • ข้อดี ปลอดภัยมากขึ้น, ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้นมาก, สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ภายใน 1-2 วัน และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์

ปัจจุบันการผ่าตัดผ่านกล้องถุงน้ำดี ถือเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้ในการรักษา หากปล่อยไว้ไม่ทำการผ่าตัด อาการก็จะรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ และในผู้ป่วยที่ผ่าตัดผ่านกล้องนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว ก็ควรดูแลตัวเองให้ดี รับประทานอาหารจำพวกผัก ปลา มากขึ้น และลดของมันลง เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับตัวเอง

อ้างอิง : www.phyathai.com

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button