อังกฤษ พบ “แมวมัมมี่” ในกำแพงโบสถ์เก่านับร้อยปี คาดใช้เป็นเครื่องราง เฝ้าหลุมศพกษัตริย์

อังกฤษ พบ “ซากแมวมัมมี่” ในกำแพงโบสถ์เก่า ที่เป็นที่ตั้งของสุสานของกษัตริย์ยุคก่อน นับร้อยปี คาดใช้เป็นเครื่องราง เฝ้าหลุมศพกษัตริย์
กลายเป็นการค้นพบที่สุดสะพรึงในเกาะอังกฤษ เมื่อมีการพบซากแมวในสภาพมัมมี่ ถูกซ่อนอยู่ภายในกำแพงของ โบสถ์วอลแธมแอบบีย์ (Waltham Abbey Church) ในมณฑลเอสเซกซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ และยังตั้งอยู่ติดกับสุสานที่เชื่อกันว่าเป็นของ กษัตริย์แฮโรลด์ กอดวินสัน กษัตริย์แองโกล-แซกซอนองค์สุดท้ายของอังกฤษ ผู้สิ้นพระชนม์ในยุทธการที่เฮสติงส์ เมื่อปี ค.ศ. 1066
การค้นพบครั้งนี้สร้างความสงสัยให้กับนักประวัติศาสตร์อย่างมาก โดยปกติแล้ว ประเพณีการนำแมวไปผนึกไว้ในกำแพงเพื่อเป็นเครื่องรางปัดเป่าวิญญาณอันชั่วร้าย มักจะทำกันในบ้านเรือนหรือโรงนา ไม่ใช่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างโบสถ์คริสเตียน

นายเอียน แชนเนลล์ ผู้จัดการพิพิธภัณฑ์เขตเอปปิงฟอเรสต์ เล่าว่า แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อพบวัตถุอันน่าขนลุกนี้ระหว่างการตรวจสอบคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ “ผมไม่คาดคิดเลยว่าจะเปิดกล่องออกมาแล้วเจอกับแมวมัมมี่ พูดตามตรง มันเป็นวัตถุที่ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว” นายเอียนกล่าว
จากการตรวจสอบ พบว่าแมวตัวนี้ถูกพบครั้งแรกภายในกำแพงของโบสถ์ และเชื่อกันว่าถูกฝังไว้ในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 16 ถึง 18 ซึ่งเป็นเวลาหลายร้อยปีหลังจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์แฮโรลด์ ประเพณีการทำมัมมี่แมวในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16-18 มักใช้เป็นเครื่องรางนำโชค ป้องกันสัตว์รบกวน หรือปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย
โบสถ์วอลแธมแอบบีย์แห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อ โดยย้อนไปถึงศตวรรษที่ 7 และเป็นจุดหมายปลายทางของผู้แสวงบุญในยุคกลาง
กษัตริย์แฮโรลด์ กอดวินสัน ทรงเคยได้รับการรักษาจนหายที่นี่ และได้สร้างโบสถ์ขึ้นใหม่ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในปี ค.ศ. 1060 ถัดจากนั้นในปี ค.ศ. 1066 พระองค์สิ้นพระชนม์ในยุทธการที่เฮสติงส์ มีตำนานเล่าว่าภรรยาคนแรกของพระองค์เป็นผู้นำพระศพกลับมายังวอลแธมแห่งนี้ แต่ที่ตั้งที่แท้จริงของสุสานยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้แมวมัมมี่ตัวดังกล่าวได้ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณะที่พิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อมาหลังจากที่มีค้นพบ
ที่มา: The Daily Star
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ใจสลาย เจ้าสาว 19 แขวนคอตาย หลังครอบครัวผัวรุมด่า ชุดแต่งงานเปิดไหล่ “โป๊-น่าอาย”
- ตะลึง งานวิจัยญี่ปุ่นชี้ “ผมหงอก” ไม่ใช่แค่เริ่มแก่ แต่ร่างกายกำลังสู้ “มะเร็ง”
- สโลวาเกีย เล็งใช้กฎหมาย จำกัดความเร็วผู้ใช้ทางเท้า ห้ามเกิน 6 กม./ชม.
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





