4 ปีหลังหนีตายตาลิบัน ทีมฟุตบอลหญิงอัฟกานิสถาน ลงแข่งนัดแรกในฐานะ “ผู้ลี้ภัย”
การกลับมาของนักสู้ผู้ลี้ภัย แม้ไร้สถานะทีมชาติ แต่จิตวิญญาณแห่งอัฟกานิสถานได้ถูกประกาศก้องในสนาม FIFA Unites : Women’s Series 2025
การกลับมาของนักสู้ผู้ลี้ภัยนาน 4 ปีหลังจากที่นักเตะจากทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติอัฟกานิสถานจำต้องหนีเอาชีวิตรอดออกจากมาตุภูมิ ท่ามกลางการยึดอำนาจของกลุ่มตาลิบัน วันนี้ (28 ต.ค.) เรื่องราวบทใหม่ของพวกเธอกำลังถูกจารึกขึ้น เมื่อผู้เล่นหลายคนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลแต่ในฐานะ “ผู้ลี้ภัย”
การแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการต่อสู้เพื่อได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในฐานะทีมชาติบนเวทีโลก โดยพวกเธอรวมตัวกันภายใต้ชื่อ อัฟกัน วีเมน ยูไนเต็ด (Afghan Women United)
ฟาติมา ไฮดารี กัปตันทีมซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในอิตาลี กล่าวว่า มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้พบกัน, ได้กอดกันและสุดท้ายก็ได้ลงเล่นร่วมกันอีกครั้ง ในฐานะนักกีฬา ดิฉันอยากจะบอกว่า คุณจะเผชิญหน้ากับความท้าทายและความยากลำบากในชีวิต แต่คุณจะสามารถเอาชนะมันได้เสมอและจะไม่มีวันยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

“FIFA Unites” การกลับมาที่ไม่มีตำแหน่ง
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้จัดการแข่งขันกระชับมิตร 4 เส้า ภายใต้ชื่อ “FIFA Unites: Women’s Series 2025” ขึ้นที่โมร็อกโก โดยมีทีมนักเตะผู้ลี้ภัยทีมนี้เข้าร่วมแข่งขันกับทีมชาติชาด, ลิเบีย และตูนิเซีย
การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการวิ่งเต้นมานานหลายปีจากบรรดานักกีฬา, คาลิดา โปปาล อดีตกัปตันทีมและนักเคลื่อนไหว, และกลุ่มสิทธิมนุษยชน
“ด้วยความท้าทายทั้งหมดที่เราเผชิญหน้ามา ในที่สุด หลังผ่านไปสี่ปีกับอีกไม่กี่เดือน เด็กสาวเหล่านี้ก็ได้เล่นฟุตบอลในนามของทีมอัฟกานิสถาน แต่เป็นทีมที่ไม่มีตำแหน่ง” โปปาล กล่าว “ดิฉันดีใจที่พวกเธอได้เล่น แต่มันเพียงพอไหม? ไม่ แต่มันคือการเริ่มต้นที่ดี”

บาดแผลที่ยังคงอยู่ เพื่อเป็น “เสียง” ของผู้ถูกเงียบ
ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติอัฟกานิสถานลงเล่นอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายในปี 2018 ก่อนที่กลุ่มตอลิบานจะกลับมามีอำนาจในปี 2021 และสั่งยุติกิจกรรมกีฬาของผู้หญิงทั้งหมด ความหวาดกลัวการถูกตามล่าทำให้ผู้เล่นหลายคนต้องหนีออกจากประเทศ หลายคนต้องเผชิญกับประสบการณ์อันน่าสะพรึงกลัวถึงขั้นต้อง เผาชุดกีฬาของตนเองทิ้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม
“เราเผชิญหน้ากับความยากลำบากที่แม้แต่จะนึกถึงก็ยังเจ็บปวด เพราะมันขมขื่นจริงๆ” ไฮดารีกล่าว “มันคือการทิ้งบ้านเกิด เพื่อนฝูง และครอบครัวไป สิ่งที่ทำให้ดิฉันเสียใจคือ ยังมีผู้หญิงอีกมากมายในอัฟกานิสถานที่ไม่ได้เล่นกีฬา แต่พวกเขาก็หวังว่าจะได้มายืนบนสนามระดับนานาชาติแบบพวกเรา เราต้องการเป็นเสียงของพวกเธอ”


อนาคตที่ต้องสร้างเอง
แม้การแข่งขันที่โมร็อกโกจะเป็นเพียง “ก้าวแรก” แต่เป้าหมายของพวกเธอคือการได้รับการยอมรับอย่างมีความหมายในฐานะทีมชาติ และการจัดตั้งสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติที่เป็นอิสระ “เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กผู้หญิงจะไม่ถูกปิดปากอีกต่อไป”
โค้ช พอลีน แฮมิล กล่าวว่า “เราต้องการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เรามี เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นว่าเราจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร”
แม้ว่าในแมตช์แรก Afghan Women United จะพ่ายให้กับทีมชาติชาดไป 1-6 แต่สำหรับผู้เล่นเหล่านี้ ผลแพ้ชนะไม่ใช่สาระสำคัญ “ดิฉันรู้สึกปลอดภัย รู้สึกเป็นอิสระ ในฐานะเด็กผู้หญิง ในฐานะผู้หญิง ที่จะได้มีชีวิตปกติ ได้เล่น ได้ฝัน” กัปตันไฮดารีกล่าว
“และฉันไม่ได้แบกรับแค่ความฝันของตัวเอง แต่แบกรับความฝันของผู้หญิงทุกคนในอัฟกานิสถาน ที่ต้องการจะเล่นฟุตบอล”
การกลับมาสู่สนามครั้งนี้มองในอีกแง่มุมนอกเหนือจากผลแข่งจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่เป็นชัยชนะทางจิตวิญญาณซึ่งเปี่ยมไปด้วยความหวังและความกล้าหาญอันหาญกล้าที่โลกควรสดุดีอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา บัญชีเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของฟีฟ่า เปิดเผยภาพนาทีประวัติศาสตร์พร้อมกับระบุข้อความ “จารึกประวัติศาสตร์ในโมร็อกโก! ทีมฟุตบอลหญิง (Afghan Women United) ลงสนามนัดแรกทัวร์นาเมนต์ฟีฟ่า ยูไนท์ส วีเมนส์ ซีรีส์ 2025.







อ่านข่าวกีฬารอบโลกที่น่าสนใจ
- อัฟกานิสถาน เปิดฉากปะทะรุนแรง สังหารทหารปากีสถาน 58 นาย เจ็บอีก 30
- ทีมฟุตบอลหญิงออสเตรเลีย ส่งแข้งข้ามเพศกว่าครึ่งทีม ทำสถิติไร้พ่ายตลอดฤดูกาล
- เปิดภาพ นาดีน ประวัติศาสตร์ ! มิสยูนิเวิร์สปาเลสไตน์คนแรก เตรียมชิงมงฯ ที่ไทย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





