มิชชันนารีเกาหลี แฉอีกด้าน ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแก๊งคอลฯ ในเขมรเป็นเหยื่อผู้น่าสงสาร

มิชชันนารีเกาหลี เปิดอีกมุมเหยื่อแก๊งคอลฯ ในเขมร ชี้ไม่ใช่ทุกคนที่บริสุทธิ์ ส่วนใหญ่มาเพราะความโลภ บางคนถึงขั้นขายเพื่อน
ท่ามกลางกระแสข่าวที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือพลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา อ๊ก แฮ-ชิล มิชชันนารีชาวเกาหลีใต้ที่ทำงานคลุกคลีกับปัญหาในพื้นที่มานาน 14 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยเปิดเผยอีกมุมหนึ่งของปัญหาว่า ไม่ใช่ชาวเกาหลีใต้ทุกคนที่เข้าไปพัวพันกับองค์กรอาชญากรรมเหล่านี้จะเป็น “เหยื่อผู้บริสุทธิ์” เสมอไป
การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ หลังจากเกิดกรณีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกทรมานจนเสียชีวิตในศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา และมีรายงานผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก
มิชชันนารีแฉส่วนใหญ่แค่อยากหาเงิน ใครเดือดร้อนไม่เกี่ยว
อ๊ก แฮ-ชิล ซึ่งได้ช่วยเหลือคนเกาหลีหลายคนให้ได้กลับบ้าน กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาไม่ได้มีเจตนาที่ดีเพื่อหาเงินส่งให้พ่อแม่ แต่มาเพราะ “แค่อยากจะมาหาเงิน โดยคิดว่า ‘ใครจะเดือดร้อนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน'”
เธอยังชี้ว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่ “วีซ่าง่ายมาก” ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการอยู่อาศัยในประเทศเพื่อนบ้าน มองว่ากัมพูชาเป็นสถานที่ที่ง่ายต่อการเข้ามาพักพิงและแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการติดสินบนเจ้าหน้าที่

เที่ยวบินพิเศษขน “ผู้ต้องสงสัย” กลับโซล
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกคำสั่งห้ามเดินทาง “ระดับสีดำ” ในบางพื้นที่ของกัมพูชา และเตรียมจัดส่งเที่ยวบินพิเศษนำชาวเกาหลีใต้ประมาณ 60 คนกลับกรุงโซลในวันเสาร์นี้ แต่นายวี ซอง-ลัก ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ ยืนยันว่าคนกลุ่มนี้คือผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิด และจะถูกจับกุมทันทีที่เดินทางถึงเกาหลีใต้
นางอ๊กให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า คนกลุ่มนี้น่าจะมีตำแหน่งและทำหน้าที่เสมือนผู้จัดการในศูนย์หลอกลวงเหล่านั้น เธอยังได้เล่าถึงกรณีที่เคยจ่ายเงินช่วยเหลือหนุ่มสาวบางคนให้ได้กลับบ้าน แต่คนเหล่านั้นกลับเดินทางมายังกัมพูชาอีกครั้งพร้อมกับเพื่อน และขายเพื่อนของตัวเองต่อให้กับแก๊งอาชญากรรม
แม้ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง จะสั่งให้เร่งลบโฆษณางานผิดกฎหมายทางออนไลน์ แต่นางสาวอ๊กเชื่อว่าปัญหาที่แท้จริงเป็นเรื่องเชิงโครงสร้างในสังคมเกาหลีใต้เอง
อ๊ก แฮ-ชิล กล่าวว่า “ถ้าเกาหลีใต้มีสภาพแวดล้อมที่คนหนุ่มสาวสามารถหางานทำและใช้ชีวิตได้อย่างสมเหตุสมผล พวกเขาก็คงไม่ทำแบบนี้ แต่การศึกษาของเรากลับมุ่งเน้นแต่เรื่องความสำเร็จและเงินเดือนสูงๆ ในบริษัทใหญ่ๆ มานานเกินไป”
ที่มา: Reuters
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นานาชาติหนุน “รังสิมันต์ โรม” เสนอปราบสแกมเมอร์ เป็นวาระเร่งด่วน สู่เวทีโลกสำเร็จ
- “อนุทิน” สั่งสอบปม 7 ชื่อนักการเมืองเอี่ยวสแกมเมอร์ ถ้ามีชื่อดำเนินการแน่นอน
- เกาหลีใต้ ร้อง UN เดินหน้าร่วมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเขมรจริงจัง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: