โฆษกกลาโหม ถาม กัมพูชา พร้อมแค่ไหน หลังกดดันเปิดด่าน 20 ต.ค.

โฆษกกระทรวงกลาโหม ย้ำ กัมพูชา ต้องยอมรับเงื่อนไข 4 ข้อ หลังกดดันให้เปิดด่านชายแดนภายในวันที่ 20 นี้ ถามกลับพร้อมแค่ไหน
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุถึงความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ออกมากดดันเรียกร้องให้ไทย เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้ว่า ส่วนตัวไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
แต่ขณะนี้ไทยยังไม่มีมาตรการอื่นใดนอกเหนือจากเงื่อนไข 4 ข้อคือ ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบปรามสแกมเมอร์ และบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหา ตามข้อเสนอจากวงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา และต้องมีกลไกความร่วมมือมาพูดคุยกัน เพื่อให้สองฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นรูปธรรมก่อนจึงค่อยไปคุยเรื่องอื่น
โดยไทยพูดชัดเจนว่าหากจะมีการเจรจาใดๆ ทางกัมพูชาต้องยอมรับในเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ -ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และมีผลเป็นที่น่าพึงพอใจจึงค่อยไปคุยในประเด็นอื่น
ส่วนที่มีข้อสังเกตกรณีสมเด็จฮุน เซน อาจจะสูญเสียรายได้ จึงพุ่งเป้ากดดันเรื่องการเปิดด่านนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องการสูญเสียรายได้ของทางกัมพูชา แต่คาดคะเนได้จากผลกระทบด้านการค้าตามแนวชายแดน ที่สืบเนื่องจากมาตรการปิดด่านของไทย แต่ย้ำว่า มาตรการปิดด่านที่ไทยดำเนินการมีความเหมาะสม และเป็นการกดดันกัมพูชาในเชิงหลักสากล และ กัมพูชาก็ต้องย้อนมองตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน ก่อนออกมาพูดว่าขอเปิดด่าน
เนื่องจากขณะนี้ฝ่ายไทยยืนยันเป็นแนวทางเดียวกันหมด ตั้งแต่รัฐบาลไปจนถึงระดับพื้นที่ว่าต้องยึดในเงื่อนไข 4 ข้อ ก่อนที่จะไปคุยเรื่องอื่น โดยเฉพาะนายกฯ ก็ยืนยันในเงื่อนไข 4 ข้อว่า กัมพูชาต้องยอมรับเรื่องนี้ก่อน จึงจะนำไปสู่การเจรจา และในระดับพื้นที่ก็ย้ำในจุดยืนเดียวกันว่าจะต้องมีเรื่องของการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน เช่น เรื่องการเก็บกู้เพื่อระเบิด และจัดการชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย แต่ทางกัมพูชากลับไม่มีแผนปฏิบัติการใดๆ ที่เป็นรูปธรรม
ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งไปทางกัมพูชา เลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย-กัมพูชา กับภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากกัมพูชายังไม่ได้ส่งแผนปฏิบัติการ
ส่วนท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมาเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชานั้น มองว่า สหรัฐฯ มีศักยภาพในการดำเนินการ และมีประเทศพันธมิตรต่างๆ ที่จะร่วมสนับสนุน ถือเป็นสิ่งที่ดีกับภูมิภาค และสะท้อนว่าสหรัฐฯ มีความห่วงใยในภูมิภาคนี้ หากมองในเรื่องของเจตนารมณ์ ไม่ได้มองเฉพาะเรื่องการรักษาสมดุล ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะประเด็นสำคัญในการแก้ไขปัญหาไทยกัมพูชาคือการสร้างความสงบให้เกิดขึ้น
โดยมองว่าปัจจัยที่จะนำไปสู่การเจรจาได้ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเศรษฐกิจในประเทศของกัมพูชาเอง ขณะเดียวกันไทยก็ต้องการคลี่คลายความตึงเครียดตามตามแนวชายแดน เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิต โดยปกติสุขไม่ต้องหวาดกลัวหรือกังวลว่าจะเกิดการปะทะ ในพื้นที่ชายแดน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กต. เผยทำความเข้าใจกับญี่ปุ่นแล้ว หลังเพจสถานทูตเจอรถทัวร์ เสนอเปิดด่าน
- เกาหลีใต้ เบรกรับสมัครแพทย์อาสา ส่งไปกัมพูชา หวั่นไม่ปลอดภัย
- “อนุทิน” ไม่ตอบ “โรม” จี้รัฐบาลเร่งปราบแก๊งสแกมเมอร์ สะเทือนพนมเปญ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: