ปฏิวัติการรักษามะเร็ง! AI อาวุธใหม่ช่วยวินิจฉัยเร็ว-ผ่าตัดแม่นยำ หมอที่ใช้ไม่เป็นจะสูญพันธุ์

การเดินทัพของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งได้อีกต่อไปในทุกมิติของชีวิตเรา และในสมรภูมิที่สำคัญที่สุดอย่างการต่อสู้กับ “โรคมะเร็ง” เทคโนโลยีอันทรงพลังนี้ก็ได้เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพอันรวดเร็วทั้งการวิจัย การวินิจฉัยและการรักษาโรคอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อเดือนที่แล้ว หน่วยงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษ เพิ่งจะประกาศว่าจะมีการนำเครื่องมือ AI สุดล้ำมาใช้ใน “สเกลที่ไม่เคยมีมาก่อน” เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหลายล้านคนได้รับการดูแลที่ “รวดเร็วและชาญฉลาดขึ้น” และนี่คือภาพรวมของการปฏิวัติวงการแพทย์ครั้งสำคัญ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการต่อสู้กับมะเร็งไปตลอดกาล
สำหรับนักวิทยาศาสตร์ – เร่งสปีดการวิจัยเร็วขึ้นหลายทศวรรษ!
อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการต่อสู้กับมะเร็ง คือ “การป้องกันและตรวจจับตั้งแต่ระยะเริ่มต้น” ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล และนี่คือสิ่งที่ AI ถนัดที่สุด
ศาสตราจารย์นูเรีย โลเปซ-บิกาส จากสถาบันวิจัยชีวการแพทย์แห่งสเปน อธิบายว่า “ก่อนจะมี AI เราต้อง ‘เดา’ ว่าการกลายพันธุ์ของยีนตัวไหนที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช้ามาก แต่ด้วย AI เราสามารถวิเคราะห์เนื้องอกหลายพันชิ้นจากผู้ป่วยทั่วโลก เพื่อค้นหารูปแบบและชี้ตัว ‘ยีนตัวร้าย’ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนมะเร็งได้อย่างแม่นยำ
“เรากำลังทำงานได้เร็วขึ้นหลายปี หรืออาจจะหลายสิบปีเลยทีเดียว”
อันดับแรกมันช่วยค้นพบยาใหม่ โดย “King’s College London” ใช้ ChatGPT-4 วิเคราะห์งานวิจัยเก่าๆ เพื่อค้นหาสูตรยาผสมใหม่ๆ ในการรักษามะเร็งเต้านม อีกทั้งยังลดเวลาทดลอง โดยปัจจุบันสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งอังกฤษได้ฝึกฝน AI ให้จดจำรูปร่างของเซลล์มะเร็งเมื่อได้รับยาชนิดต่างๆ ด้วยความแม่นยำถึง 99% ซึ่งอาจช่วยลดเวลาในการทดสอบยาขั้นต้นจาก 3 ปี ให้เหลือเพียง 3 เดือน

สำหรับแพทย์ “ดวงตาที่สาม มองเห็นสิ่งที่ตามนุษย์มองไม่เห็น”
ศักยภาพของเอไอ (AI) ในการวินิจฉัยโรคกำลังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายใน NHS แล้ว มันสามารถ “มองเห็น” พิกเซลที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ ทำให้มองเห็นร่องรอยของมะเร็งในภาพสแกนที่อาจจะเล็กเกินกว่าสายตามนุษย์จะมองเห็น หรืออาจถูกมองข้ามไปโดยแพทย์ที่ทำงานอย่างเร่งรีบ
ตรวจมะเร็งผิวหนัง – ระบบ DERM ใช้ AI เปรียบเทียบภาพถ่ายไฝบนผิวหนังกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยว่าไฝนั้นมีแนวโน้มจะเป็นมะเร็งหรือไม่
คัดกรองมะเร็งปอด – ดร.โจ บาร์เน็ตต์ รังสีแพทย์จาก NHS กล่าวว่า “โปรแกรมคัดกรองมะเร็งปอดต้องอาศัยการอ่านผล CT สแกนจำนวนมหาศาล ซึ่งเรามีรังสีแพทย์ไม่เพียงพอ แต่ AI ได้เข้ามาช่วยได้อย่างมหาศาล แทนที่เราจะต้องใช้รังสีแพทย์ 2 คน เราสามารถใช้ 1 คนทำงานร่วมกับ AI ได้”
ตรวจจับมะเร็งชนิดอื่นๆ – มีการทดลองใช้ AI ช่วยตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากจากภาพ MRI และแม้กระทั่ง ตรวจหามะเร็งลำคอจาก “เสียงพูด” ของผู้ป่วย


สำหรับผู้ป่วย – “หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด” การรักษาที่ออกแบบมาเพื่อคุณคนเดียว
แม้คอมพิวเตอร์จะยังไม่สามารถทำการรักษาได้โดยตรง แต่มันจะช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้รวดเร็วและดีขึ้น นำไปสู่ยุคใหม่ของการรักษาที่เรียกว่า “การแพทย์ที่แม่นยำและจำเพาะบุคคล” (Precision and Personalised Medicine) โดยสมาคมมะเร็งวิทยาคลินิกแห่งอเมริกาได้เปิดตัวเครื่องมือสไตล์ ChatGPT ที่แพทย์สามารถป้อนข้อมูลของผู้ป่วย แล้ว AI จะประมวลผลและเสนอทางเลือกการรักษาที่ดีที่สุดโดยอ้างอิงจากงานวิจัยล่าสุด
หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) ตอนนี้ AI กำลังจะถูกผนวกรวมเข้ากับหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมากขึ้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้นและทำงานที่ซับซ้อนอย่างการผูกไหมเย็บแผลโดยอัตโนมัติ และล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำการผ่าตัดจำลองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกโดยปราศจากความช่วยเหลือของมนุษย์
ดร.จูลี กราโลว์ ประธานสมาคมมะเร็งวิทยาคลินิก กล่าวว่า AI จะไม่เข้ามาแทนที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง แต่แพทย์ที่ใช้ AI เป็นจะเข้ามาแทนที่แพทย์ที่ใช้ไม่เป็น
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งอเมริกาได้ขนานนามการจับคู่กันระหว่าง AI และการรักษามะเร็งว่าเป็น “การปฏิวัติที่กำลังจะเกิดขึ้น” และศร.โลเปซ-บิกาสก็ได้ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าตื่นเต้นว่า ฉันมีความรู้สึกว่าก้าวกระโดดครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น ยังมาไม่ถึง.



ที่มา : The Sun
- สาวเมืองผู้ดีวัย 25 ไปหาหมอเรื่องผื่น ก่อนได้บทเรียนราคาแพง เตือนหมั่นเช็กลำคอ
- พ่อลูกอังกฤษป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก เผย 3 สิ่งที่ผู้ชายควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ
- สเวน-โกรัน อีริคส์สัน อดีตกุนซืออังกฤษ เผยเป็นมะเร็ง หมอบอกอยู่ได้อีกแค่ปีเดียว
ติดตาม The Thaiger บน Google News: