ทรัมป์ ขู่กำแพงภาษี 100% ตอบโต้จีนคุม แรร์เอิร์ธ-ชะตาโลกแขวนบนเส้นด้าย

สงครามการค้าปะทุระลอกใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐขู่กำแพงภาษี 100% ตอบโต้ประเทศจีนคุมแรร์เอิร์ธ-ชะตาโลกแขวนบนเส้นด้าย
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ วัย 79 ปี ได้จุดชนวนความตึงเครียดในสงครามการค้าโลกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ด้วยการขู่ว่าจะตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเติมอีก 100% กับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด โดยอาจมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เสี่ยงจะยกระดับสงครามการค้าให้กลับไปสู่จุดที่เคยสร้างความหวาดผวาว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีได้แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อมาตรการควบคุมการส่งออก “แรร์เอิร์ธ” (rare earth) ครั้งใหม่ของจีน และได้กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผล” ที่จะต้องพบปะกับผู้นำจีน สี จิ้นผิง ในระหว่างการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ที่กำลังจะมาถึง แม้ว่าในเวลาต่อมาเขาจะลดท่าทีลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทิ้งความไม่แน่นอนเอาไว้
“เราคงต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ผมกำหนดเส้นตายไว้ที่ 1 พฤศจิกายน” ทรัมป์ กล่าว ซึ่งเป็นการเปิดช่องไว้สำหรับการเจรจา

ชนวนเหตุ “แรร์เอิร์ธ” อาวุธทางเศรษฐกิจของปักกิ่ง
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ เป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่รัฐบาลจีนประกาศจำกัดการเข้าถึงแร่แรร์เอิร์ธเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลุ่มโลหะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่ชิปคอมพิวเตอร์, เลเซอร์ ไปจนถึงเครื่องยนต์ไอพ่น ทรัมป์กล่าวหาว่าจีนกำลัง “แสดงความเป็นปรปักษ์มากขึ้น” และใช้แรร์เอิร์ธเป็นเครื่องมือจับคนทั้งโลกเป็นตัวประกัน
เพื่อตอบโต้ ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการควบคุมการส่งออก “ซอฟต์แวร์ที่สำคัญทั้งหมด” ของบริษัทอเมริกันเช่นกัน
ตลาดผวา แต่ยังหวังว่า “ทรัมป์” จะกลับลำ
ข่าวการขู่ตั้งกำแพงภาษีครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในทันที โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงถึง 2.7% ซึ่งเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม ในแวดวงการเงินต่างรู้ดีถึงสไตล์การเจรจาของทรัมป์ จนเกิดเป็นศัพท์ที่เรียกว่า “TACO” (Trump Always Chickens Out) ซึ่งหมายถึงการที่ทรัมป์มักจะขู่ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวสุดขั้ว ก่อนจะยอมอ่อนข้อลงในภายหลัง แต่ถึงกระนั้นความเสี่ยงที่สงครามการค้าจะปะทุขึ้นอีกครั้งก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้

มุมมองนักวิเคราะห์ “ยังมีทางลงแต่เสี่ยงอย่างยิ่ง”
ซุน ยุน ผู้อำนวยการโครงการจีนศึกษาแห่งสถาบันสติมสัน มองว่าการกระทำของปักกิ่งเป็นการ “ตอบโต้ที่ไม่ได้สัดส่วน” ต่อมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ แต่เชื่อว่า “ยังมีพื้นที่ให้เจรจาต่อรอง” เพื่อรักษาการประชุมสุดยอดของผู้นำทั้งสองไว้
ขณะที่ เครก ซิงเกิลตัน ผู้อำนวยการอาวุโสของมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย เตือนว่าคำประกาศของทรัมป์อาจเป็น “จุดเริ่มต้นของจุดจบแห่งการพักรบทางภาษี”
“การสร้างความเสียหายให้แก่กันและกันไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเปรียบเปรยอีกต่อไป” ซิงเกิลตัน กล่าว “ทั้งสองฝ่ายกำลังเอื้อมไปหยิบอาวุธทางเศรษฐกิจของตนเองพร้อมๆ กัน และดูเหมือนจะไม่มีฝ่ายใดยอมถอย”
ที่มา : AP


อ่านข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ได้ที่นี่
- สลดซ้ำรอย โรงงานวัตถุระเบิดเทนเนสซี ราบเป็นหน้ากลอง สูญหาย 18 ชีวิต โอกาสริบหรี่
- สาวจีนคลั่ง วิ่งแก้ผ้าบนบันไดเลื่อน กลางด่านมาเก๊า ชาวเน็ตคาด เสียพนันจนหมดตัว
- ศึก 2 หน้า ทูตจีนในกัมพูชาโพสต์หนุนเขมร สวนทูตจีนในไทย ยันเป็นกลางปมขัดแย้งเขมร
ติดตาม The Thaiger บน Google News: