สาวทดลองดื่ม “มัทฉะ” แทนกาแฟ 1 สัปดาห์ เผยผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด

เผื่อใครที่สนใจ สาวทอดลองดื่ม “มัทฉะ” แทนกาแฟ ตลอดเวลา 1 สัปดาห์ เผยผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด ทั้งร่างกาย และ จิตใจ
เรื่องราวนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่านการบอกเล่นของหญิงรายหนึ่งที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากการดื่มกาแฟเป็น “มัทฉะ” ทุกวัน ตลอดเวลา 1 สัปดาห์ โดยเธอเล่าว่า
“ฉันยอมรับว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านมัทฉะ แต่บรรณาธิการท้าให้ฉันลองเปลี่ยนจากกาแฟมาดื่มมัทฉะทุกวันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และฉันก็ตกลงที่จะแบ่งปันประสบการณ์นี้ แม้ว่าเครื่องดื่มสีเขียวนี้จะกำลังเป็นเทรนด์ในโลกสุขภาพ แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่ามัทฉะมีรากฐานทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งในญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ โดยมีบทบาทสำคัญในพิธีชงชาแบบดั้งเดิม”
“สารภาพตามตรงว่า การเผชิญหน้ากับมัทฉะครั้งแรกทำให้ฉันไม่แน่ใจ รสชาติที่ออกแนว “ดิน” และ “หญ้า” นั้นต้องปรับตัวอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ฉันตัดสินใจเลือกใช้มัทฉะเกรดพิธีการ (Ceremonial-Grade Matcha) ที่ทำจากใบมัทฉะออร์แกนิกจากญี่ปุ่น 100% ฉันยังใช้เวลาฝึกฝนการชงด้วยไม้ไผ่ (Chasen) จนมั่นใจว่าชงได้ถูกต้อง (คิดว่านะ)”
“แม้การทดลองนี้ไม่ได้ทำให้ฉันกลายเป็นคนดื่มมัทฉะทุกวัน เพราะฉันยังรู้สึกว่ารสชาติของมันออกแนว “ดินๆ” แต่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ ฉันก็ได้เปลี่ยนมาดื่มเครื่องดื่มสีเขียวนี้แทนกาแฟยามบ่าย และต้องยอมรับว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นบวก”
“ทั้งพลังงานที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง เพราะแทนที่จะได้รับพลังงานแบบฉับพลันและบางครั้งก็ทำให้ใจสั่น เหมือนกาแฟ มัทฉะกลับให้พลังงานที่นุ่มนวลและต่อเนื่องกว่า มันไม่ใช่การพุ่งทะยานเหมือนจรวด แต่เป็นการไต่ระดับขึ้นสู่สภาวะตื่นตัวและมีสมาธิอย่างอ่อนโยน”
“ต่อมา ไม่มีอาการ ‘สมองล้า’ ยามบ่าย โดยฉันสังเกตว่าตัวเองไม่มีอาการอ่อนเพลียในช่วงบ่าย (afternoon crash) เหมือนที่เคยเป็นหลังดื่มกาแฟ แต่มีพลังงานที่คงที่ ทำให้ทำงานต่อเนื่องได้ตลอดบ่าย”
“และสุดท้าย พิธีกรรมที่ช่วยให้มีสติ ฉันสังเกตเห็นว่า การชงมัทฉะกลายเป็นพิธีกรรมที่ช่วยให้ฉันมีสติ (Mindful Ritual) การใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการตีชาและมองดูฟองสีเขียวสดใส ทำให้ฉันต้องชะลอตัวเองลงกลางวันยุ่งๆ ซึ่งเป็นช่วงพักที่ฉันไม่เคยรู้ว่าตัวเองต้องการ”
มัทฉะเป็นแหล่งพลังงานทางโภชนาการที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารสำคัญ ทั้ง คาเทชิน (Catechins) ที่เป็นสารอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะ EGCG ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ รวมไปถึงกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (L-theanine) ที่ทำงานร่วมกับคาเฟอีน ส่งเสริมให้เกิดสภาวะ “ตื่นตัวอย่างสงบ (Calm Alertness)”
นอกจากนี้ ประโยชน์ที่ได้จากมัทฉะก็มีหลายด้าน ทั้งพลังงานที่แตกต่างกับการดื่มกาแฟ, สุขภาพที่ดีขึ้น เพราะสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวและบรรเทาอาการอักเสบได้
รวมไปถึงการลดความเครียดจากสาร แอล-ธีอะนีน ที่ช่วยเพิ่มการผลิตสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สงบ เช่น สารเซโรโทนินและโดพามีน ทำให้หลายคนรู้สึกผ่อนคลายและมีอารมณ์ที่ดีขึ้นหลังจากดื่มมัทฉะเป็นประจำ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองภายใต้ความเครียดได้ โดยเฉพาะการปรับปรุงเวลาตอบสนองและการรับรู้อารมณ์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามัทฉะจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน หากคุณเป็นคนที่ไวต่อคาเฟอีนมาก ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ หรือหลีกเลี่ยงไปเลย โดยส่วนตัวฉันเองก็จะไม่ดื่มหลัง 13:00 น. เพื่อไม่ให้กระทบต่อการนอนหลับ
สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ก็ควรระมัดระวังปริมาณคาเฟอีนและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อน เนื่องจากมัทฉะมาจากการบริโภคใบชาทั้งใบ จึงอาจมีตะกั่วในปริมาณเล็กน้อยที่ดูดซับจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้จะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงตั้งครรภ์
ก่อนที่เธอจะปิดท้ายบทความนี้ว่า “ฉันสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่า หากคุณชอบรสชาติ หรือกำลังมองหาทางเลือกอื่นแทนกาแฟที่ให้พลังงานที่สงบกว่า มัทฉะก็เป็นสิ่งที่ควรลองอย่างยิ่ง เพียงแต่ต้องแน่ใจว่าคุณดื่ม “มัทฉะจริงๆ” ไม่ใช่อาหารรสชาติมัทฉะที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งไม่ได้ให้ประโยชน์ใดๆ เลย”
อ้างอิง : www.prevention.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เด็กตายพุ่ง 14 ศพ ยาน้ำแก้ไอ Coldrif ปนเปื้อนสารพิษ อินเดียเร่งสอบ อย.ไทยยัน ไม่มีขาย
- CEO บริษัทดังขอโทษ ฉีดแชมเปญฉลองโพเดียม F1 ทั้งที่เป็นมุสลิม
ติดตาม The Thaiger บน Google News: