ข่าว

หนังคนละม้วน! “ญาญ่า” หุ้นส่วน “เม พรีมายา” แจงยิบ ยัน เมไม่เกี่ยวแบรนด์ใหม่

“ญาญ่า” หุ้นส่วน “เม พรีมายา” ชี้แจงอีกมุม ยืนยันขายหุ้นคืนให้ “ญาติของเม” ไม่ใช่ตัวเม และเคลียร์ปมดีล 100 ล้านที่ “เม” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

มหากาพย์ดราม่าธุรกิจคลินิกยังคงร้อนระอุ ล่าสุด “คุณญาญ่า” หนึ่งในหุ้นส่วนคนสำคัญ ได้ออกมาชี้แจงในรายการ โหนกระแส เพื่อชี้แจงเรื่องราวในฝั่งของตนเอง โดยยืนยันว่า เม พรีมายา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับแบรนด์คลินิกใหม่ “Dermatige” โดยประเด็นแรกที่ “คุณญาญ่า” ชี้แจงคือเรื่องการซื้อขายหุ้นคืน ยืนยันว่าตน ไม่ได้ขายหุ้นคืนให้กับ เม พรีมายา

“หนูไม่ได้ขายคืนให้เขา หนูขายคืนให้กับญาติของเขาคือคุณ อาร์ คุณอาร์ จริง ๆ ไปเช็กได้เลย หนูทำธุรกิจกับเขาด้วยอีกธุรกิจหนึ่ง จากนั้นได้ตอบต่อข้อถามที่ทาง เม พรีมายา อ้างว่าได้มีการเข้าไปพูดคุยหลังจากเคลียร์เรื่องคดีความ และต้องการที่จำเอาหุ้นที่ฝากกลับคืนมา โดยด้านญาญ่าบอกว่าจะให้คืน แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่มีการใส่ชื่อ เม ต้องไปใส่ชื่อญาติของเม”

“ตอนที่เขามาคุย เขากับญาติของเขามีความประสงค์ที่อยากจะกลับมาทำธุรกิจ ซึ่งตัวญาติเขาหนูก็มีบริษัทกับเขาอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งหนูเป็นผู้ถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ญาติของเขา คุณอาร์ (ชื่อย่อ) เป็นผู้ถือหุ้น 70 % ซึ่งมีอีกบริษัทหนึ่งอีก ตรงนี้เราก็รู้จักกับน้องเขากันอยู่แล้ว เป็นญาติกัน แล้วในวันที่เราตัดสินใจว่าเขามาบอกความประสงค์ อย่างที่แจ้งกับพี่หนุ่ม แต่คนที่มาซื้อหุ้นกับเราจริง ๆ คือคุณอาร์ที่รู้จักกับทางหนู แล้วก็ทำธุรกิจอื่นด้วยกันด้วย”

“เมเขามาในฐานะเป็นพี่เลี้ยงของอาร์ แต่อาร์ทำธุรกิจกับหนูอยู่แล้ว เขามาคุยในลักษณะที่หนูไม่รู้ว่า คุณเมกับคุณอาร์เขามีข้อตกลงอะไรกัน ตรงนี้หนูไม่รับรู้ แต่คนที่มาซื้อหุ้นกับเราคือคุณอาร์”

"คุณญาญ่า" ขณะให้สัมภาษณ์ชี้แจงในรายการโหนกระแส
YT/ โหนกระแส [Hone-Krasae] official
“พอเราได้ทำการซื้อหุ้นจากคุณเมเรียบร้อย เราก็ทำแบรนด์ขึ้นมาใหม่ แบรนด์ Dermatige เราโละใหม่หมดเลย คือเราทำแบรนด์ใหม่ขึ้นมา ไม่เกี่ยวข้องกับพริมย่าคลินิกเลย โละใหม่ทุกอย่าง ทั้งโลโก้ ทั้งทุกอย่าง แบรนด์เป็นเอกเทศ เป็นของหนูกับคุณหมอที่คิดกันขึ้นมา แล้วเมื่อหนุ่ม กรรชัย ถามว่า Dermatige ไม่เกี่ยวกับเมเลยใช่หรือไม่ ด้านญาญ่าตอบว่าไม่เกี่ยว”

“วันนี้หนูถึงอยากมา Clarify ตรงนี้ โลโก้หนูยังมีสลิปที่เราโอนส่วนตัวของเรา ในการออกแบบ การทำทุกอย่าง เราเปิดแบรนด์ใหม่ ซึ่งเรามีหนังสืออนุญาตให้บริษัทคลินิกเวชกรรม (DMT) นี้ใช้แบรนด์เรา Dermatige เป็นตัวแบรนด์ แล้วเราอนุญาตให้บริษัทคลินิกใช้ชื่อแบรนด์เรา”

“เราคิดแบรนด์ขึ้นมาใหม่ก็คือ Dermatige แล้วเราเอาแบรนด์นี้มาใช้กับคลินิก ในระหว่างนั้นมีบริษัทในช่วงที่ทำกันทั้ง 3 คน คุณหมอทั้งทำงาน ลงตรวจทุกอย่าง ตอนนั้นเราก็ได้รับความนิยมชมชอบจากคนไข้เยอะมาก แล้วคุณหมอมาเป็นมาร์เก็ตติ้งด้วย ในตัวแบรนด์เราปรับแบรนด์ดิ้งใหม่ และกลยุทธ์ใหม่ทุกอย่าง”

“อย่างตัวหนูเอง หนูเคยเป็นมาร์เก็ตติ้งตอนอยู่พริมย่าคลินิก หนูก็ไม่ได้เป็น เพราะว่าเราคิดแบรนด์ตรงนี้มาเราต้องการให้คุณหมอเป็นจุดยืนของแบรนด์ ที่เราวางแผน วางกลยุทธ์ทางธุรกิจกันมา 3 คน เพราะคลินิกต้องการความน่าเชื่อถือ เราก็ให้หมอเป็นตัวชูโรง เสร็จแล้วระหว่างนั้นก็มีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาสนใจ เรียกว่า S แล้วกัน ตอนนั้นก็เป็นอย่างที่ทุกคนทราบกันในรายการที่คุณเมกับญาตคุณเมแจ้งว่า เขามาสนใจเพราะธุรกิจไปได้ดี เขาก็สนใจและเหมือนกับจะมาดีลกัน ในราคาร้อยล้าน”

“พอจะดีลกันสุดท้ายดีลไม่ได้เกิดขึ้น เพราะคุยแล้วตกลงกันไม่ได้ การประเมินมูลค่าตรงนั้น ทางน้องอาจจะเข้าใจผิดว่ามูลค่าบริษัทเยอะ แต่จะบอกว่าตามสัญญาที่เรามีสัญญาอยู่ เราไม่ได้นำมาเผยแพร่เพราะมี NDA เขามีสัญญาว่าไม่ได้เป็นมูลค่าของบริษัท เป็นมูลค่าของบริษัทบวกกับบุคคลที่เราต้องทำงานต่อตรงนั้นเป็นระยะเวลาอีก 5 ปี คุณหมอทั้งสองและตัวหนูด้วย”

“ตรงนี้ดีลทั้ง 3 คนไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณเมเลย ตอนนั้นเราก็เปิดอีกบริษัทหนึ่งก็คือ DMP ซึ่งบริษัทนี้เราเปิดตอนที่บริษัท S เขาจะมาร่วมลงทุนกับเรา แต่ว่าสุดท้ายไม่ได้ตบดีล แต่เราก็เปิดตั้งแต่ตอนนั้น”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button