ข่าวการเมือง

รัฐบาล ยัน “สีหศักดิ์” ขึ้นแถลง UN ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ

ไตรศุลี ยัน สีหศักดิ์ ขึ้นแถลงบนเวที UN ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ ขอความเห็นจากกฤษฎีกาแล้ว ย้ำเป็นการปกป้องผลประโยชน์ชาติ

จากกรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ครั้งที่ 80 (UNGA80) เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.ย.2568 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ชี้แจงท่าทีของประเทศไทยต่อสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการยึดมั่นกลไกพหุภาคีและแนวทางสันติภาพนั้น

ก่อนที่ นาย ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ตั้งคำถามว่านายสีหศักดิ์ ไปในฐานะอะไร และอาจจะเสี่ยงผิดรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่เรื่องด่วน ตามที่เป็นข้อยกเว้นในรัฐธรรมนูญนั้น

ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 68 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานต่อที่ประชุมว่าได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 80 ในช่วงสัปดาห์ผู้นำระหว่างวันที่ 23 – 30 ก.ย. 68 โดยมีภารกิจสำคัญคือการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 27 ก.ย. และการพบปะหารือกับเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงชี้แจงท่าทีและข้อเท็จจริงของไทยในกรณีความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายกัมพูชาใช้เวทีโลกนำเสนอข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ขอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งได้ยืนยันว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์แล้ว ถือว่าเข้ารับหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ตามมาตรา 12 ของรัฐธรรมนูญ และแม้ตามมาตรา 162 จะกำหนดให้คณะรัฐมนตรีต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ก็ได้กำหนดไว้ในมาตรา 162 วรรค 2 ให้ดำเนินการได้หากเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนที่กระทบต่อประโยชน์ของประเทศ ดังนั้น การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปร่วมการประชุม UNGA 80 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์สำคัญของประเทศ ทั้งยังเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง จึงถือว่าอยู่ในกรอบกฎหมายและไม่เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตเมื่อปี 2551 คณะรัฐมนตรีก็เคยมีมติรับทราบการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 63 ที่นครนิวยอร์ก แม้ในขณะนั้นยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งสำนักงานกฤษฎีกาในเวลานั้นก็ให้ความเห็นว่าสามารถทำได้ เพราะถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่มีการกำหนดช่วงเวลาแน่นอนไว้แล้ว และการแถลงต่อที่ประชุม UNGA เป็นการสะท้อนท่าทีและจุดยืนของประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลโดยตรง รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ยึดหลักการทำงานด้วยความรอบคอบ รอบด้าน และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ การพิจารณามอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม UNGA 80 ครั้งนี้ เป็นไปตามหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เพื่อยืนยันสิทธิและศักดิ์ศรีของประเทศไทยในเวทีโลก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเสียโอกาสบนเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับกัมพูชา การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการดำเนินการทั้งหมดก็อยู่ในกรอบกฎหมายทุกประการ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button