
อวสานกัญชาเสรี สธ.ออกประกาศ กัญชา กลับเข้าสู่สถานะสมุนไพรควบคุม ใช้ผิดวัตถุประสงค์ต้องขออนุญาต เริ่มมีผลทันที
ผู้สื่อข่าว รายงาน กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศฉบับใหม่เรื่อง “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568” ปรับสถานะกัญชาให้กลับมาเป็นสมุนไพรควบคุมอีกครั้ง ให้มีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมยกเลิกประกาศเดิมปี 2565 ที่ถอดกัญชาออกจากบัญชีควบคุมทั้งหมด
ประกาศฉบับนี้มีสาระสำคัญคือการนำ กัญชา (เฉพาะส่วนของช่อดอก) ซึ่งอยู่ในวงศ์ Cannabaceae กลับเข้ามาอยู่ในบัญชีสมุนไพรควบคุม กำหนดให้การ ศึกษา วิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปเพื่อการค้า ต้องขออนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตามเงื่อนไขของมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ. สมุนไพร พ.ศ. 2562
กำหนดเงื่อนไขการอนุญาตชัดเจน
1. ผู้ขออนุญาตเพื่อวิจัยหรือแปรรูปเพื่อการค้า ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน รวมถึงสถานที่ดำเนินการ สถานที่เก็บรักษา และรายละเอียดกระบวนการต่าง ๆ
2. การขายหรือแปรรูปเพื่อการค้า ต้องระบุรายละเอียดแหล่งที่มาของกัญชา และต้องผ่านการตรวจสอบตามเงื่อนไข
3. ห้ามจำหน่ายในบางสถานที่ เช่น วัด สถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ หรือผ่านตู้อัตโนมัติ
4. ห้ามโฆษณาเชิญชวนในเชิงพาณิชย์
5. ผู้ได้รับอนุญาตตามมาตรา 46 เดิม หากยังครอบครองอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใหม่ทันที
ใช้ในทางการแพทย์ยังอนุญาต แต่ต้องอยู่ในขอบเขต
กระทรวงสาธารณสุขยังอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ แต่ต้องเป็นไปตามการสั่งใช้ของแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น โดยต้องใช้เพื่อการรักษา ไม่ใช่เพื่อสันทนาการหรือบริโภคโดยเสรีเหมือนช่วงที่ถอดจากบัญชีควบคุมก่อนหน้านี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลงนามในประกาศดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 โดยให้มีผลทันที เพื่อควบคุมการใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และลดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ประกาศฉบับนี้ถือเป็นการ “หวนคืนสู่การควบคุม” ช่อดอกกัญชาอีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาการใช้ในทางที่ผิดและส่งเสริมการใช้ทางการแพทย์และวิชาการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประสิทธิ์ แฉเบื้องลึก สมศักดิ์ ดันกัญชากลับ เป็นยาเสพติด เชื่ออยากแก้แค้น ภูมิใจไทย
- “สมศักดิ์” ลั่นในอนาคต “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติด ใช้การแพทย์เท่านั้
- แกนนำภูมิใจไทย จี้ สธ. ออก พรบ. คุมกัญชา อัดรัฐบาลเพื่อไทยละเลย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: