เปิดประวัติเศร้า พจนารถ เหยื่อหญิงท้อง 7 เดือนกระทืบดับ เป็นเสาหลักของบ้าน มีลูกเล็ก 1 ขวบ

เปิดประวัติเศร้า พจนารถ เหยื่อเมียหลวง หญิงท้อง 7 เดือนกระทืบดับ ครอบครัวยัน ไม่ใช่เมียน้อย เพิ่งรู้จัก 1 สัปดาห์ เป็นเสาหลักของบ้าน มีลูกเล็ก 1 ขวบ
จากรณีเช้าวันที่ 20 เมษายน 2568 นางสาวพจนารถ ถูกหญิงท้องแก้ 7-8 เดือน กระทืบทำร้ายจนเสียชีวิตด้วย เหตุเพียงเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่สาม เหตุสลดนี้เกิดขึ้นที่ “เช็คอินรีสอร์ต” ย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
นายสงวน อายุ 27 ปี พาสาวคนใหม่ น.ส.พจนารถ วัย 28 ปี เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ในช่วงกลางดึก ทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน กระทั่งช่วงเช้าตรู่ น.ส.วรวรรณ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นภรรยาหลวง ตามร่องรอยสามีมาถึงรีสอร์ตแห่งนี้ด้วยอารมณ์โกรธแค้น พังประตูใจตัวเองและจิตใจของอีกฝ่าย กระชากจิกศีรษะหญิงสาวผู้นั้น ลากออกมาทำร้ายร่างกายอย่างหนักต่อหน้าคนหลายคน
กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ น.ส.พจนารถ หมดสติอยู่หน้าห้องพัก ถูกจิกผม เตะ กระทืบอย่างต่อเนื่อง เตะใส่ใบหน้า 1 ครั้ง กระทืบศีรษะ 3 ครั้ง หน้าอก 4 ครั้ง จับศีรษะตบใบหน้าสั่งสอน 6 ครั้ง กระทืบที่อวัยวะเพศอีก 1 ครั้งจนสลบ แม้พนักงานของรีสอร์ตและพลเมืองดีจะพยายามเข้าห้าม แต่หญิงท้อง 7 เดือนกลับยังไม่หยุดมือ จนในที่สุด นายสงวนจึงออกมาจากห้องและอุ้มหญิงสาวผู้บาดเจ็บสาหัสไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันการณ์
จากข้อมูลที่พ่อกับแม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน น.ส.พจนารถ หญิงสาววัย 28 ปี ผู้เป็นเหยื่อในคดีนี้ เติบโตมาในครอบครัวธรรมดาย่านอ่อนนุช มีลูกแล้ว 1 คน อายุเพียงขวบเศษ เคยใช้ชีวิตคู่กับสามีซึ่งทำงานเป็นไรเดอร์ 3 ปี แม้ชีวิตรักจะมีปัญหาถึงขั้นแยกทางกันช่วงหนึ่ง แต่เธอก็กลับไปคบหากับสามีอีกครั้งในภายหลัง
พจนารถเป็นเสาหลักของบ้าน ทำงานห้างสรรพสินค้า แต่เพราะรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว จึงลาออกหันมาทำงานในสถานบันเทิงย่านอ่อนนุชในตำแหน่งพนักงานต้อนรับ (PR) ซึ่งเพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน
ในฐานะเสาหลักของบ้าน เธอต้องหาเงินส่งเสียครอบครัว และแบกรับภาระมากมายในแต่ละวัน เพื่อนสนิทเล่าว่าเธอเป็นคนเงียบ ๆ ไม่เคยสร้างปัญหาให้ใคร
การรู้จักกับนายสงวนเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นไม่ถึงสัปดาห์ นายสงวนให้คำมั่นกับพจนารถว่าเลิกรากับกับแล้ว และเลือกจะคบหากับเธอต่อ ทั้งที่เพื่อนของน.ส.พจนารถพยายามเตือนให้เขากลับไปคืนดีกับภรรยา แต่กลับถูกปฏิเสธ
แม่ของน.ส.พจนารถเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวของเธอไม่ใช่เมียน้อย เธอเพิ่งรู้จักกับฝ่ายชายไม่นาน ไม่เคยคิดแย่งสามีใคร พร้อมตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของฝ่ายชายว่าเหตุใดจึงออกมาช่วยตอนเกิดเหตุวิวาท หรือแม้แต่ช่วยเหลือเมื่อลูกสาวของเธอกำลังจะสิ้นลมหายใจ
ฝ่ายชายอ้างกับตำรวจว่าเมา กลัวออกไปแล้วโดนทำร้ายเพราะฝ่ายหญิงมีอารมณ์ฺรุนแรง
ชีวิตที่ไม่ควรถูกตัดสินด้วยกำปั้น จากคำให้การของตำรวจและภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นได้ชัดว่าการทำร้ายร่างกายนั้นรุนแรงเกินกว่าเหตุ น.ส.วรวรรณ ลงมือจิก ตบ เตะ กระทืบ น.ส.พจนารถซ้ำหลายครั้ง ทั้งที่หญิงสาวไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ ด้วยซ้ำ
แม้ญาติของผู้ต้องหาจะอ้างว่าหญิงท้องไม่ได้ตั้งใจให้ถึงตาย แต่ความรุนแรงก็พรากชีวิตหนึ่งไปแล้ว ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะดำเนินคดีในรูปแบบใดต่อไป
ชีวิตของ “น้องพจน์” ต้องจบลงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของคนที่อ้างว่าเป็นภรรยา ความรุนแรงที่ไม่สมควรเกิด กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครลืม เธอไม่ใช่แค่เหยื่อของความรักที่ผิดทาง แต่คือเหยื่อของสังคมที่ยังไม่ยอมรับว่า ความรุนแรงไม่ใช่คำตอบของทุกปัญหา
พจนารถคือหญิงสาวธรรมดา ที่หวังเพียงจะเลี้ยงลูกให้เติบโต แต่กลับไม่มีโอกาสได้เห็นวันพรุ่งนี้.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตร. แจง หญิงถูกเมียหลวงท้อง 7 เดือน กระทืบไม่ใช่เมียน้อย เป็นเด็กเอ็นฯ
- เมียหลวงโหด ท้อง 7 เดือน บุกกระทืบสาวจนตาย ผัวยืนเฉยไม่ช่วย กลัวโดนทำร้ายด้วย
- โหนกระแส ฟังเมียหลวงเล่า สามีตำรวจล็อกตัวให้เมียน้อยตบ ก่อนแฉสิ้นส่วยสีกากี ชุมพร
ติดตาม The Thaiger บน Google News: