เก๋งขาวโชว์ดริฟต์ทั่วเกาะภูเก็ต คนพื้นที่จี้ Blacklist สุดท้ายตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ไม่ปล่อยเสียงสวดระงมชาวบ้านไร้ความหมาย รายงานจับกุมเผยสัญชาติไนจีเรีย มีหมายตับหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมประวัติครอบครองยาเสพติดให้โทษ
จากกรณีรับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุสภ.เมืองภูเก็ต และ “เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket” เพจเฟซบุ๊กท้องถิ่นลงคลิปเผยแพร่พฤติกรรมเย้ยกฏหมายของรถยนต์ยี่ห้อ มาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีขาว ไม่ทราบป้ายทะเบียน ขับขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียวบนท้องถนนด้วยการโชว์ดริฟต์รถ (DRIFT) สุดห่ามทั้งตอนเข้าโค้งและตรงสี่แยกไฟแดงเกาะแก้วและแยกดาราสมุทร บริเวณแยกเกาะแก้ว ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนถึงบริเวณแยกดาราสมุทร ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ล่าสุด ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต Phuket Info Center ระบุ ตำรวจชุดจับกุมดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุตรงแยกบางคู ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อ 11 มี.ค.68 เวลาประมาณ 21.58 น. ที่ผ่านมาแล้วพบว่าขณะรถยนต์คันดังกล่าวกำลังขับขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียวนั้น ได้มีตำรวจปฏิบัติหน้าที่จราจรสภ.ถลาง พบเห็นจึงได้ขับขี่ไล่ตามอย่างกระชั้นชิด จึงสามารถเห็นป้ายทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดตามได้ทันเนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่ด้วยความเร็วสูงไปตามถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) มุ่งหน้าไปยังแยกเซ็นทรัล ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต
หลังทราบเรื่องนำโดยพ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ตพร้อมตำรวจชุดจับกุมสืบทราบรายละเอียดดังกล่าว จึงได้ดำเนินการติดตามต่อเนื่อง จนไปพบรถยนต์คันดังกล่าว อยู่บริเวณ ซอยเกาะแก้ว 23 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวพบเห็นเจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้ขับขี่หลบหนี
อย่างไรก็ดีเจ้าพนักงานชุดจับกุดำเนินการไล่ติดตามกระชั้นชิดเพื่อทำการจับกุมและระงับเหตุจนไปถึงบริเวณบ้านโบราณภายในซอยนานาชาติ 2 ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นซอยตัน รถยนต์คันกล่าวไม่สามารถขับขี่หลบหนีต่อไปได้
ทั้งนี้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ลงออกจากรถยนต์ และวิ่งหลบหนีการจับกุม เข้าไปภายในป่ารกตำรวจชุดจับกุมจึงได้วิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนถึงตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์คันดังกล่าว ระหว่างการจับกุมตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งสองไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้น
ช่วงหนึ่งผู้ก่อเหตุต่อสู้ขัดขืนการจับกุมมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยง ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารล้มและมีบาดแผลตามร่างกาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมมีบาดแผลถลอกขณะเข้าจับกุม
เบื้องต้นสามารถช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ จึงทราบว่าบุคคลทั้ง 2 เป็นชาวต่างชาติ ไม่ทราบชื่อและสกุลและมีอาการมึนเมา พูดจาโวยวายอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษผ่านแอปลิเคชันแปลภาษา แต่ผู้ถูกจับทั้งสองไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และประกอบกับเป็นเวลากลางคืนเร่งด่วนจึงไม่สามารถหาล่ามภาษาท้องถิ่นของชาวต่างชาติดังกล่าวได้
สุดท้ายดำเนินการตรวจสอบจากผู้ถูกจับไม่มีเอกสารประจำตัวแสดง ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมายังสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อถ่ายภาพหน้าตรงและลายนิ้วมือของผู้ต้องหาดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ทราบบุคคล
กระทั่งปรากฏเจ้าหน้าที่ไปพบข้อมูลในสารบบตรงกับบุคคลชื่อ นายอานาเมเร จอร์จ (MR.ANAMERE GEORGE) สัญชาติไนจีเรีย และได้ตรวจสอบพบอีกว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 21 ส.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในอาญาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดและมียาเสพติดให้โทษประเภท2 (โดเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” (หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนดนัด) ขาดอายุความวันที่ 4 ส.ค. 2581
อีกรายยังไม่ทราบชื่อนามสกุลเพราะไม่มีเอกสารพาสสปอร์ต.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ฉลองฟรีวีซ่า! เก๋งขาวโชว์ดริฟต์ทั่วเกาะภูเก็ต ตร.ยังเฉย คนพื้นที่จี้ Blacklist
- สำนักอัยการสูงสุด ยืนยัน เก๋งขาวหัวร้อน ไม่ใช่บุคลากรหรือลูกหลานพนักงาน
- รถแดงฉาวอีก ชักมีดแกว่งข่มขู่รถเก๋ง แค่เพราะโดนบีบแตรเตือน
ข่าวล่าสุด
