ในประวัติศาสตร์ไทย ตำแหน่ง “นางสนองพระโอษฐ์” เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่มีความสำคัญในราชสำนัก โดยเฉพาะในแวดวงฝ่ายใน เนื่องจากได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด หมายความว่าคนที่มีโอกาสได้ทำหน้าที่นี้จะต้องเป็นที่ไว้วางใจมาก
ความหมาย ความเป็นมาของตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมาย นางสนองพระโอษฐ์ ไว้ว่า น. คุณพนักงานหญิงที่แต่งงานแล้ว มีหน้าที่รับพระราชเสาวนีย์ไปปฏิบัติหรือเชิญพระราชเสาวนีย์ไปติดต่อข้อราชการตามพระราชประสงค์ของพระราชินี เป็นตำแหน่งที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง.
ตำแหน่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยในช่วงเวลานั้น ราชสำนักไทยมีการแบ่งฝ่ายบริหารชัดเจนระหว่างฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ฝ่ายในหมายถึงพื้นที่ภายในพระบรมมหาราชวังที่ผู้หญิงดำรงตำแหน่ง มีบทบาทในการบริหารจัดการเฉพาะกลุ่มสตรีในราชสำนัก
นางสนองพระโอษฐ์ เป็นตำแหน่งของข้าหลวงในราชสำนักที่ทำหน้าที่ สนองพระราชกระแสรับสั่ง หรือคำสั่งของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์ฝ่ายใน มักมีหน้าที่รับผิดชอบในการสื่อสารคำสั่งจากพระราชวงศ์สู่ฝ่ายบริหารหรือบุคคลภายนอก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการถวายคำแนะนำเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับราชการฝ่ายใน
นางสนองพระโอษฐ์ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ กับตำแหน่งงานในปัจจุบันของคนทั่วไปคือ “เลขานุการ” นั่นเอง
บทบาทหน้าที่ของนางสนองพระโอษฐ์
นางสนองพระโอษฐ์มีหน้าที่หลากหลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับยุคสมัยและความต้องการของเจ้านายสตรีฝ่ายใน โดยหน้าที่หลักของตำแหน่งนี้ ได้แก่
1. สนองพระราชประสงค์ นางสนองพระโอษฐ์ทำหน้าที่เป็นผู้รับและถ่ายทอดคำสั่งจากพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศ์ไปยังบุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ โดยต้องทำอย่างรอบคอบและถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งถูกปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2. บริหารงานภายในพระราชฐาน ภายในฝ่ายใน นางสนองพระโอษฐ์มีบทบาทสำคัญในการจัดการกิจวัตรประจำวัน เช่น การดูแลความเรียบร้อยของพระราชฐาน การจัดการงานพิธีภายใน และการดูแลข้าราชบริพารหญิงในวัง
3. เป็นผู้ไว้วางพระราชหฤทัย ด้วยความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ ตำแหน่งนี้จึงต้องเป็นบุคคลที่ไว้วางใจได้ มีความสามารถในการเก็บรักษาความลับของราชสำนัก และต้องมีความซื่อสัตย์สูง
4. ถวายคำปรึกษาในเรื่องราชการ ในบางกรณี นางสนองพระโอษฐ์อาจทำหน้าที่ให้คำปรึกษาหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการฝ่ายใน
ความสำคัญของตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์
ตำแหน่งนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของผู้หญิงในระบบราชการไทยในอดีต ซึ่งมีหน้าที่ไม่เพียงแต่ดูแลความเรียบร้อยของฝ่ายในเท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่างๆ ในพระราชสำนัก เช่น การจัดการพิธีสำคัญทางศาสนา การดูแลทรัพย์สินของฝ่ายใน และการประสานงานระหว่างราชสำนักกับบุคคลภายนอก
ในด้านจารีตและวัฒนธรรม ตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ยังช่วยรักษาประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติในราชสำนัก เช่น การจัดงานราชพิธีต่างๆ ที่ต้องการความละเอียดอ่อนและความชำนาญเฉพาะด้าน
ตัวอย่างบุคคลสำคัญที่ดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์
ตลอดประวัติศาสตร์ไทย มีบุคคลสำคัญหลายท่านที่เคยดำรงตำแหน่งนี้ เช่นในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้แก่ หม่อมหลวงมณีรัตน์ บุนนาค ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2494 เป็นต้นไป, ท่านผู้หญิงมนัสนิตย์ วณิกกุล ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2515 เป็นต้นไป, ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 เป็นต้นไป หรือ ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป เป็นต้น
อย่างในรัชกาลปัจจุบัน เมื่อปี 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดําริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุบผา เป็นนางสนองพระโอษฐ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ปัจจุบัน
ในปัจจุบัน ตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ยังคงมีอยู่ในราชสำนักไทย แต่ล่าสุด 16 พฤศจิกายน ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศเรื่อง การดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ ข้าราชบริพารในพระองค์
เนื้อความมีของในหลวงรัชกาลที่ 10 มีพระบรมราชโองการฯ ให้ การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งและการพ้นจากตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ ข้าราชบริพารในพระองค์ ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย การดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ ข้าราชบริพารในพระองค์ ให้มีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี เว้นแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งต่ออีกคราวละ 3 ปี
การดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ ข้าราชบริพารในพระองค์ สิ้นสุดลงเมื่อ พ้นจากตำแหน่งข้าราชบริพารในพระองค์ หรือ ลาออก หรือถึงแก่กรรม หรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง
ดังนั้น ตำแหน่ง นางสนองพระโอษฐ์ ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายของเกียรติยศ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความไว้วางใจและความรับผิดชอบในราชสำนัก บทบาทที่นางสนองพระโอษฐ์ได้แสดงตลอดประวัติศาสตร์ไทยนั้น ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของผู้หญิงในฐานะผู้สนับสนุนและผู้ขับเคลื่อนระบบการบริหารราชสำนักอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจบทบาทและความสำคัญของตำแหน่งนี้ จึงช่วยเปิดมุมมองให้เห็นถึงความหลากหลายและความลึกซึ้งในโครงสร้างของสังคมไทยในอดีตและปัจจุบัน
บทความที่เกี่ยวข้อง