ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รวบ 2 โจ๋วิ่งราวทรัพย์กลางเมือง
ภูเก็ต – ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต รวบ 2 โจ๋ที่ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้าน อ้างว่านำเงินไปแบ่งกันแล้วนำไปใช้จ่าย เนื่องจากไม่มีงานทำ
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.61 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตพ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.ปฏิพัทธ์ ถาวรประพัฒน์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต
ร่วมกันจับกุม นายชนาธิป หรือลิป สามารถกิจ อายุ 19 ปี ที่อยู่ 12/120 ม.1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นายหนุ่ม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปีเศษ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช
พร้อมด้วยของกลาง คือ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป้ สีขาว จำนวน 1 เครื่อง พระเครื่อง (หลวงพ่อรอด,หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) จำนวน 2 องค์ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการวันก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ ไอ สีน้ำเงิน ขาว ทะเบียน 1กข 5579 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ห้องเช่าเลขที่ 12/308 ซ.เทียมประชาอุทิศ ม.1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ต่อเนื่องห้องเช่าเลขที่ 37/43 ซ.หย่องกึ้ง-มนูอุทิศ ม.6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 9 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายเป็นเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้านขณะที่เดินอยู่ริมถนนบางกอก ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ซึ่งทรัพย์ที่ได้ไปเป็นเงินสดประมาณ 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาชุดสืบสวนได้ตรวจกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุและตลอดเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนทราบแหล่งที่พักจนสามารถเดินทางไปจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการ นายชนาธิป หรือลิป สามารถกิจ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนได้ชักชวน นายหนุ่ม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปีเศษ ไปร่วมกันก่อเหตุจริง เนื่องจากไม่มีเงินใช้ ซึ่งวันก่อเหตุได้ขับตระเวณหาเหยื่อเมื่อมาถึงที่บริเวณถนนบางกอกเห็นเหยื่อเดินอยู่ริมถนนตนจึงขับรถจักรยานยนต์เข้าใกล้แล้วให้นายหนุ่มเป็นคนกระชากกระเป๋าแล้วหลบหนีไป
โดยได้เงินประมาณ 10,000 บาท ตนแบ่งให้นายหนุ่ม 4,000 บาท และเก็บไว้เอง 6,000 บาท จากนั้นนายหนุ่มได้นำเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ส่วนตนได้นำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่มีงานทำ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป