ข่าวข่าวต่างประเทศ

ชายไต้หวัน กระดกไวน์ตามด้วยกาแฟ สุดท้าย หลอดอาหารแตก จบที่โรงพยาบาล

ระวังให้ดี ชายสูงวัย ดื่มไวน์ฉลองงานเกษียณ ก่อนดื่มกาแฟตาม กลับถึงบ้านปวดท้องรุนแรง แถมอาเจียนเป็นเลือด รีบไปหาหมอ ตรวจพบหลอดอาหารแตกและถุงลมโป่งพอง ทั้งที่ไม่ได้สูบบุหรี่ แพทย์ผ่าตัดเร่งด่วน

อุทาหรณ์เตือนใจสายดื่ม เรื่องราวที่กำลังจะเล่านี้ เกิดขึ้นในเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน นายจาง วัย 68 ปี ได้ดื่มไวน์ข้าวฟ่างครึ่งขวดในระหว่างงานเลี้ยง และก่อนกลับบ้าน เขาได้แวะร้านกาแฟเพื่อดื่มกาแฟอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าเมื่อกลับถึงบ้านแล้ว นายจาง เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง พร้อมทั้งอาเจียนออกมาเป็นเลือด จึงรีบเข้ารับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล

นายแพทย์หลิน หงเซิง ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมทรวงอก โรงพยาบาลเหงียนเจเนรัล เจ้าของเคสดังกล่าว เปิดเผยว่า นายจาง ปกติแล้วเขาไม่ได้สูบบุหรี่หรือดื่มสุราเป็นปกติ แต่เขาดื่มเนื่องจากมีงานเลี้ยงเพื่อนร่วมงานที่เกษียณอายุราชการ ก่อนเทศกาลตรุษจีน บรรดาแขกก็ต่างเชียร์ให้เขาจิบไวน์ข้าวฟ่าง ให้เกินครึ่งขวดเพื่อฉลองให้เจ้าของงาน หลังเสร็จงานเลี้ยง เขาจึงไปร้านกาแฟเพื่อดื่มกาแฟ ทำให้ตื่นตัวจากการจิบไวน์

ดื่มไวน์ + กาแฟ = ปวดท้อง 1

แต่หลังจากกลับถึงบ้าน นายจาง ก็มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องอืด คลื่นไส้ และอาเจียนเป็นเลือด จึงเดินทางมาเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในแผนกฉุกเฉิน เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน หลังจากที่ทำการเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ พบว่า กระเพาะอาหารของเขา มีรอยโป่งพองอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการรับประทานอาหารจำนวนมาก และหลอดอาหารส่วนปลายขยายออก ณ ตอนนั้น เขายังคงมีอาการเจ็บหน้าอกและช่องท้องด้านบนในวันต่อมา

อีกทั้งผล ซีที สแกน ยังพบอีกว่า ก๊าซบริเวณกลางทรวงอก และน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดสองข้างเป็นจำนวนมาก จึงวินิจฉัยว่า ผู้ป่วยมี ภาวะ “หลอดอาหารแตกเองและถุงลมโป่งพองด้านซ้าย” ทำให้ต้องส่งตัวเพื่อผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาการเข้าขั้นวิกฤต โดยการซ่อมแซมการฉีกขาดของหลอดอาหาร พร้อมทั้งนำเศษอาหารที่รั่วไหลออกจากหน้าอกด้านซ้าย

หลังผ่าตัดเสร็จจึงนำตัวนายจาง มาพักฟื้นที่ห้องไอซียู พร้อมทั้งสังเกตอาการหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด นายจาง ได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการถุงลมโป่งพองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และถูกให้อาหารผ่านท่อสายยางบริเวณช่องท้อง หลังจากรักษาเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ อาการของเขาค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ จึงได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ และส่งตัวไปยังแผนกทั่วไป เพื่อทำการรักษาเพิ่มเติม หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เขาได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และออกจากโรงพยาบาลได้

ดื่มไวน์ + กาแฟ = ปวดท้อง 2
ภาพจาก : ETToday

นายแพทย์หลิน อธิบายว่า แอลกอฮอล์มักทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหาร และส่งผลต่อการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะบวมและเกิดการอาเจียน ซึ่งในช่วงเวลานี้ ความดันในช่องท้องจะเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน อีกทั้งความดันในหลอดเลือดก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน

ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้รอยต่อระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหารฉีกขาดได้ ซึ่งหากเกิดการอาเจียน อาจทำให้แผลขยายใหญ่ขึ้นได้ ส่งผลให้เกิดเลือดออก เกิดแผลที่หลอดอาหาร และเกิดเยื่อเมือกอักเสบในระดับต่าง ๆ หากรักษาไม่ทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะอักเสบ ติดเชื้อ และช็อก เนื่องจากอาหารและน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร ไหลย้อนเข้าไปในช่องอก

นายแพทย์หลิน ยังชี้ให้เห็นอีกว่า เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญก็จะทำงานช้าลงตาม ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ร่างกายรับได้อย่างปลอดภัยก็จะลดลง ต้องใช้เวลาขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายนานขึ้น และการทำงานของระบบทางเดินอาหารก็ลดประสิทธิภาพลง เดิมที นายจาง มีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว และไม่ใช่คนสูบบุหรี่และดื่มสุราเป็นกิจวัตร แต่วันเกิดเหตุ เจ้าตัวได้รับปริมาณแอลกอฮอล์มากเกินปกติ ซึ่งร่างกายไม่เคยชินกับการรับแอลกฮอล์ปริมาณมากขนาดนี้

ดื่มไวน์ + กาแฟ = ปวดท้อง 3
ภาพจาก : ETToday

อีกทั้งการดื่มกาแฟต่อ หลังจากดื่มไวน์ของนายจาง คาเฟอีนในกาแฟจะกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น ส่งผลให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานอย่างหนัก ทั้งยังส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของเจ้าตัวที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานเป็นทุนเดิม การดื่มกาแฟตามหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ ภายใน 1 ชั่วโมง ส่งผลเสียมากกว่าการดื่มแอลกอฮอล์อย่างเดียวเสียอีก

ภาวะหลอดอาหารแตกด้วยตัวเองนั้น พบได้น้อยมาก หากรักษาไม่ทันท่วงที เศษอาหารและน้ำย่อยกระเพาะอาหาร อาจสะสมอยู่ในช่องอก อาจทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงและติดเชื้อ ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิตมีสูงมาก นายแพทย์หลินได้ทิ้งท้าย

ดื่มไวน์ + กาแฟ = ปวดท้อง 4
ภาพจาก : ETToday

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : ETToday

Best Writer

นักเขียนบทความประจำ Thaiger จบการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มีความเชียวชาญด้านวงการเพลงไทย ภาพยนตร์ อนิเมะ ชื่นชมติดตามข่าวสารสังคม กีฬา เทคโนโลยี แตกประเด็น สรุปเรื่องราวมาร้อยเรียงผ่านข้อความสู่สายตาผู้อ่าน ช่องทางติดต่อ best.t@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button