ไขข้อข้องใจ “คลิปเสี่ยแป้ง” ทั้ง 2 ชุด แฉยับตำรวจ-อัยการ พร้อมสาวปมทำไม่มามอบตัว
เปิดปม เสี่ยแป้ง อัดคลิประบายสองคลิปซ้อน หนีการไล่ล่าร่วมเดือน แฉกระบวนการยุติธรรมถูกอัยการ บ.ใบไม้ หักหลัง ตั้งแต่วันช่วยผู้ตองหาคดียาเสพติด ถามทำไมทุกคนได้ประกัน ส่วนตัวเองโดนสั่งฟ้องคนเดียว
ถึงวันนี้ก็ปาเข้าไป 36 วัน แล้ว นับจากที่ เสี่ยแป้ง นาโหนด หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง หลบหนีการจับกุมของตำรวจ ตั้งแต่วันหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2566 แถมล่าสุดระหว่างปฏิบัติการไล่ล่าตัว ผู้ต้องหารายนี้ยังได้ออกมาอัดคลิปโดยอ้างว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมถึง 2 คลิป ในระยะเวลาห่างกันไม่นาน โดยคลิปแรก เจ้าตัวออกมาเผยใบหน้าค่าตาพร้อมเปิดเผยว่าตนเองได้หลบหนีลงมาจากเทือกเขาบรรทัดแล้ว
สาเหตุที่หลบหนี เสี่ยแป้ง เล่าในคลิปว่า เป็นเพราะถูกหักหลังจากคดีปล้นผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากตำรวจ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2562 แต่ถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว ส่วนกลุ่มคนวางแผนที่มีทั้ง อัยการ บ., ตำรวจยศจ่า 2 คน, ประธาน ต. และพ่อนาย จ. ผู้ต้องหาคดียาเสพติด กลับลอยนวล ได้รับการประกันตัวทั้งหมด
“วันนั้นตำรวจไม่ได้ไปจับ แต่ตั้งใจไปวิสามัญตนเองเลย ไปถึงก็ยิงใส่ตนเลย มีเอ็ม 79 นับได้ 10 กว่านัด คือตั้งใจมาฆ่า แต่ตนไม่ได้ฆ่า ถ้าตนยิง ตนยิงตายเลย แต่ไม่ได้ยิง เพราะเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับตน เขามีลูกมีเมีย มีครอบครัว ถามคนที่หลบหลังต้นไม้ดูได้” เนื้อหาที่สรุปใจความคร่าว ๆ จากที่เสี่ยแป้งออกมาอัดคลิปแฉในตอนแรก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.66 ก่อนที่วันถัดมาเจ้าตัวจะออกมาอัดคลิปที่ 2 ความยาว 4.51 นาที โดยเป็นคนละช่วงเวลากับคลิปแรก สรุปใจความได้ว่า สาเหตุที่ต้องหนีเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาคดีของศาล
โดยนายแป้ง ยังคงเน้นย้ำเรื่องที่ออกมาบอกในคลอปแรกเกี่ยวกับการที่ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่บางคนได้รับการประกันตัวในคดีพยายามฆ่าพนักงานรัฐในการปฏิบัติหน้าที่ จนต่อมาตัวเองถูกตั้งข้อหาปล้นและมีอาวุธปืนกลับไม่ได้ประกันตัว ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในการวางแผนและร่วมก่อเหตุอัยการสั่งไม่ฟ้อง ตนสงสัยว่าทำไมจึงสั่งไม่ฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาที่ตกเป็นคดีดัง
ขอบคุณคลิป : รายการเรื่องเล่าเช้านี้
ในคลิปที่สองนี้ เสี่ยแป้ง ผู้ต้องหาหนีคดียังพาดพิงถึงอัยการรายหนึ่งที่เป็นผู้รับเงินในคดีดังกล่าว ส่วนการข่มขู่อัยการนั้นตนไม่ได้ทำ พฤติกรรมดังกล่าวน่าจะเป็นการหวังร้าย การกลั่นแกล้งเพื่อให้ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมตน ทำไมสำนักงานอัยการดังกล่าวไม่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทำได้ไม่ยาก ส่วนสาเหตุที่ตำรวจต้องการวิสามัญฯนั้นเพราะตนมีปัญหากับตำรวจภาค 9 และนายตำรวจรายหนึ่งที่ตนร้องเรียนจากการที่ใช้ปืนจี้ศีรษะชาวบ้านขณะเข้าจับกุมยาบ้า ตนนำชาวบ้านไปประท้วงที่โรงพัก และยืนยันอีกครั้งว่าหากไม่มีการนำผู้ร่วมการกระทำความผิดมาดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ตนจะไม่เข้ามอบตัว 100 เปอร์เซ็นต์ หากไปก็เป็นเพียงศพเท่านั้น พร้อมกันนั้นต้องขอโทษต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ตนได้กระทำความผิดในครั้งนี้ และขอโทษพี่น้องชาวบ้านในบ้านตระที่ทำให้เดือดร้อน
ล่าสุด ผบ.ตร. สั่งสอบที่มาคลิปเสี่ยแป้งแล้ว จะใช่ตัวจริงไหม ?
ภายหลังจากคลิปคนหน้าคล้ายเสี่ยแป้ง ออกมาแฉกระบวนการยุติธรรมดังกล่าวไปนั้น ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ในฐานะผู้บัญชากาตำรวจแห่งชาติ ก็ได้สั่งสอบที่มาคลิปพร้อมให้จเรตำรวจตรวจสอบเนื้อหาคลิป พาดพิงตำรวจ ยืนยันทำความจริงให้ปรากฎ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ตอนนี้ตนได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้ว และได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.ที่ดูแลงานสืบสวน ตรวจสอบที่มาที่ไปของคลิป ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร มีการถ่ายคลิปที่ไหน ถ่ายในช่วงไหน พร้อมเร่งติดตามจับกุมนายชวลิต มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในส่วนของเนื้อหาในคลิปคงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสั่งการให้จเรตำรวจลงไปตรวจสอบ ว่ามีการพาดพิงตำรวจคนใดบ้าง มีข้อเท็จจริงอย่างไร ผิดถูกว่าไปตามพยานหลักฐาน ต้องทำความจริงให้ปรากฎ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
บิ๊กต่อ ย้ำชัดเจนด้วยว่า หากตำรวจทำผิดจริง จะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัย อาญา และปกครอง พร้อมฝากไปยังพี่น้องประชาชน ให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังสื่อโชเชียล ตำรวจพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ทำความจริงให้ปรากฎ และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร หากคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างไร ตำรวจก็พร้อมที่จะประสานงาน ดำเนินการให้ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้.